จากกรณีที่นักการเมืองยุโรปเกือบ 40 คนได้ลงชื่อในจดหมายเรียกร้องให้คณะกรรมการโนเบลขยายเส้นตายในการเสนอชื่อผู้เข้าชิงรางวัลเป็นวันที่ 31 มี.ค. เพื่อเปิดโอกาสให้แก่ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ซึ่งได้รับกำลังใจล้นหลามจากนานาชาติ หลังจากที่เจ้าตัวเลือกจะปักหลักสู้กับรัสเซียอยู่ในกรุงเคียฟ แม้จะได้รับข้อเสนอจากสหรัฐฯ ที่อาสาจะพาหลบหนีออกนอกประเทศก็ตาม
โดยในจดหมาย มีการระบุว่า “เราเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องแสดงให้ประชาชนชาวยูเครนเห็นว่าโลกยืนอยู่ข้างพวกเขา ดังนั้น เราจึงขอวิงวอนต่อคณะกรรมการให้พิจารณาดำเนินการดังนี้ ขยายระยะเวลาในการเสนอชื่อผู้เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. ปี 2022 เพื่อให้ประธานาธิบดีเซเลนสกี และประชาชนชาวยูเครน ได้มีโอกาสเข้าชิง เรามีหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยที่จะต้องยืนหยัดต่อสู้กับลัทธิเผด็จการ และสนับสนุนประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิของพวกเขาในการปกครองตนเอง เปลือกแห่งอารยธรรมนั้นบางเบาราวกับกระดาษ และพวกเรามีหน้าที่ต้องปกป้องมันโดยที่ไม่อาจหยุดพักได้”
อย่างไรก็ตาม สื่อ TASS ได้อ้างคำอธิบายจากผู้อำนวยการสถาบันโนเบล ซึ่งระบุว่า โดยปกติแล้วคณะกรรมการไม่สามารถขยายเวลาเสนอชื่อผู้เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งหมดเขตไปตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. อย่างไรก็ตาม สมาชิกคณะกรรมการมีสิทธิที่จะเสนอแคนดิเดตของพวกเขาก่อนจะมีการประชุมคณะกรรมการประจำปีหนแรก ซึ่งปีนี้ได้จัดไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา
ตามข้อมูลจากคณะกรรมการโนเบล มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2022 รวมทั้งสิ้น 343 ราย โดยแบ่งออกเป็นบุคคล 251 คน และองค์กรอีก 92 แห่ง และถือว่าเป็นปีที่มีแคนดิเดตเข้าชิงมากเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ รองจากเมื่อปี 2016 ที่มีผู้เข้าชิงทั้งหมด 376 ราย
