เซเลนสกีแทบร้อง ขอปูตินเจรจายุติขัดแย้ง! วอนนาโตอย่าปล่อยยูเครนตื้อตัน

937

จากที่สถานการณ์มรประเทศยูเครน ยังคงมีความเคลื่อนไหวจากรัสเซียที่เข้าไปจัดการความขัดแย้งระหว่างรัฐที่ต้องการแยกออกเป็นอิสระ ซึ่งเหตุการณ์ยังมีการสู้รบ และการเจรจาก็ถูกเรียกร้องให้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนั้น

ทั้งนี้นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ซึ่งได้เกาะติดสถานการณ์ดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ได้โพสต์ข้อความที่น่าสนใจวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า

“รัสเซียรู้มาตั้งนานแล้วว่า ตัวตลกหนีไปอยู่ที่สถานทูตสหรัฐในโปแลนด์ ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง ดังนั้น รัสเซียจึงเน้นการยึดครองเป็นหลัก ไม่ให้ความสำคัญแก่การเจรจาใดๆ

แต่เนื่องจากรัสเซียมีความเชี่ยวชาญเรื่องกลยุทธ์รบไปเจรจาไป การเจรจากันไปนานเท่าไรก็ว่ากันไปเหมือนสงครามเวียดนามสิ้นสุดแล้วก็ยังเจรจากันไม่จบที่ยูเครนก็จะเป็นเช่นนี้ ในขณะที่สื่อการทหารของจีนระบุว่าข้อเรียกร้องเจรจาของยูเครนซึ่งไม่รู้ใครเป็นผู้เสนอนั้นเป็นแค่การผายลม

ขณะนี้การยึดครองยูเครนตะวันออก เสร็จสิ้นไปโดยพื้นฐานเหลือเพียงการกวาดล้างกองกำลังนอกแบบ ดังนั้นรัสเซียจึงเริ่มเปิดศึกรบในพื้นที่ยูเครนตะวันตกแล้ว

การจัดตั้งรัฐบาลใน 3 รัฐอิสระเสร็จสิ้นไปแล้ว ส่วนยูเครนตะวันออกและตะวันตกนั้นก็ไม่มีความรีบร้อนที่จะต้องประกาศจัดตั้งรัฐบาล

เล่นเกมรบไปเจรจาไปจนถึงเวลาก็น่าจะชัดเจนว่า จะแบ่งยูเครนตะวันตก ยูเครนตะวันออก หรือเป็นยูเครนเดียวที่มีรัฐบาลซึ่งรัสเซียจะตั้งขึ้นหรือจะผนวกเข้ากับรัสเซียเสียเลย”

ขณะที่ในวันเดียวกัน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้เปิดเผยกับสำนักข่าว CNN บางช่วงโดยระบุว่า หากยูเครนได้เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) รัสเซียก็คงไม่บุกยูเครน สงครามครั้งนี้คงจะไม่เกิดขึ้น

“ตนต้องการคำมั่นด้านความปลอดภัยและมั่นคงสำหรับประชาชนชาวยูเครน และประเทศยูเครน จึงขอให้นาโตเอ่ยปากตรงๆ ว่าจะรับยูเครนเป็นสมาชิกในอีก 1 ปี 2 หรือ 5 ปี หรือ หากไม่รับ ก็บอกว่าไม่ ขอให้ทำให้ยูเครนได้เข้าใจชัดเจนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด อย่าบังคับให้ยูเครนต้องตกอยู่ในภาวะตื้อตันแบบนี้”

นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังระบุอีกว่า พร้อมเจรจากับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งการเจรจาเป็นหนทางเดียวที่จะยุติสงครามครั้งนี้ ตนกับปูตินเท่านั้นที่จะบรรลุข้อตกลงกันเพื่อยุติการสู้รบได้ หากการเจรจาล้มเหลว จะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 และยิ่งรัสเซียก่อการร้ายกับยูเครนมากเท่าไหร่ ผลกระทบที่ตามมาจะร้ายแรงมากเท่านั้น