“โรม”ขึ้นเขียง!หลักฐานถึงมือปปช.แล้ว สอบปมเอกสารปลอม มิบังควรกระทบสถาบันฯ

1183

จากที่ ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวซึ่งเป็นหมายข่าว เตรียมยื่นสอบจริยธรรมร้ายแรง นายรังสิมันต์ โดยมีรายละเอียดว่า

วันจันทร์ที่ 28 ก.พ.2565 เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวน สอบสวนด้านจริยธรรมร้ายแรง กรณี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล นำเอกสาร “สนง.นรป.904” มาเผยแพร่ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นเอกสารปลอม และเป็นการกระทำที่มิบังควร

ล่าสุดวันนี้ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเผยแพร่ถึงการเดินทางมายื่นเรื่องร้องสอบนายรังสิมันต์ว่า

“วันนี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนสอบสวนนายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กรณีนำเอกสารที่อ้างว่าเป็นเอกสาร “สนง.นรป.904” มาเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ อันอาจมีเจตนาที่จะสร้างผลกระทบกระเทือนไปถึงสถาบันฯโดยมิบังควรหรือไม่ อย่างไร

สืบเนื่องจากกรณีที่ได้มีการพูดถึงเป็นอย่างมากเกี่ยวกับนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้กล่าวอภิปราย เชื่อมโยงประเด็นการค้ามนุษย์ ชาวโรฮีนจา กรณีมีการค้นพบค่ายกักกัน และหลุมศพกลางป่าบนเทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565

ซึ่งได้มีการพาดพิงถึง นายทหาร นายตำรวจ นักธุรกิจ รวมถึงนักการเมือง ว่ามีส่วนร่วมในขบวนการค้ามนุษย์ อีกทั้งยังได้มีการเปิดเอกสาร สมัครเข้าหน่วย สนง.นรป.904 หรือสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ ซึ่งอ้างว่าเป็นของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นหัวหน้าทีมสืบสวนคดีค้ามนุษย์ดังกล่าว

ต่อมา พล.ต.ต.ปวีณ ได้อ้างว่าถูกกลั่นแกล้งจน ต้องขอลี้ภัยไปอยู่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งใบสมัครเข้าหน่วย สนง.นรป.904 ที่นายรังสิมันต์ ได้นำมาเป็นหลักฐานในการอภิปรายนั้น ถูกตั้งข้อสงสัยเป็นอย่างมากว่า เอกสารดังกล่าวเป็นของปลอม แม้ว่ายังไม่ได้มีการพิสูจน์แน่ชัด ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีนักวิชาการหลายท่านออกมาตั้งข้อสงสัยและข้อพิรุธมากมายว่าเป็นเอกสาร “ปลอม” แม้นายรังสิมันต์ จะออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแก้ต่างแล้ว แต่ดูเหมือนจะฟังไม่ขึ้น

การที่นำเอกสารดังกล่าวมาโพสต์พร้อมคำอธิบายที่อาจส่งผลกระทบต่อสถาบันฯด้วยนั้น เป็นกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ เพราะเป็นเรื่องที่มิบังควรเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งอาจเข้าข่ายความผิดหรือฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 6 ข้อ 14 ข้อ 15 ข้อ 16 ข้อ 17 ข้อ 25 หรืออาจเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลกระโยชน์ อันถือเป็นความผิดตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.185(1) บัญญัติไว้ได้

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 2560 ม.234(1) ประกอบ พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ม.28(1) เพื่อไต่สวนนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้นำเอกสารที่อ้างว่าเป็นเอกสาร “สนง.นรป.904” มาเผยแพร่

อันอาจมีเจตนาที่จะสร้างผลกระทบกระเทือนไปถึงสถาบันฯ และเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และหรือฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2560 ม.185(1) หรือไม่ อย่างไร หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติฯ ขอให้เสนอเรื่องต่ออัยการและศาลตามครรลองของกฎหมายต่อไปจนถึงที่สุด”