จีนว๊ากสหรัฐจอมเสี้ยม!?! แอบส่งหน่วยลับ ฝึกทหารไต้หวันเป็นปี

1165

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐตึงเครียดเพิ่มขึ้น เมื่อสื่ออเมริกันแฉว่า กองกำลังลับทหารสหรัฐฯแอบฝึกให้ “ทหารไต้หวัน” นานไม่ต่ำกว่า 1 ปี นอกจากนี้ภาพดาวเทียมล่าสุดชี้ว่ารัฐบาลปักกิ่งเร่งขยายฐานทัพอากาศใกล้ไต้หวัน ซุ่มส่งบินขับไล่อิเล็กทรอนิกวอร์แฟร์ J-16D ตัวใหม่เข้าประจำการ ยืนยันสถานการณ์ระอุเดือดในช่องแคบไต้หวันได้ว่า เปราะบางอาจเกิดการปะทะทางทหารได้แค่ไหน แน่นอนกระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาประณามเรื่องนี้พร้อมทั้งเย้ยสหรัฐว่า ทำแบบนี้ยิ่งทำให้การรวมชาติไต้หวันเกิดเร็วยิ่งขึ้น

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2564 ว่า มีรายงานที่เปิดเผยออกมาเป็นครั้งแรกจากหนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัล ในวันพฤหัสบดีที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า กองกำลังทหารหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯจำนวนกว่า 20 นาย และกองกำลังทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯที่ไม่ทราบจำนวน ในเวลานี้กำลังฝึกซ้อมรบให้กับทหารกองทัพไต้หวันอย่างลับๆ หน่วยนาวิกโยธินช่วยฝึกรบให้แก่เรือขนาดเล็กของกองกำลังทางน้ำของไต้หวัน ในปฏิบัติการแทรกซึมด้วยเรือโจมตีและเรือเร็วสปีดโบ๊ท ที่ฐานทัพเรือโซอิง ในเมืองท่าเกาสง ทางใต้ของไต้หวัน

ก่อนหน้านี้ กองบัญชาการนาวีของไต้หวัน เคยเปิดเผยในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่า สหรัฐฯ ได้ส่งนาวิกโยธิน 1 หน่วย มีชื่อว่า “มารีน เรดเดอร์” ไปยังไต้หวัน ตามคำเชิญของกองทัพไต้หวัน เพื่อช่วยฝึกรบให้แก่ทหารไต้หวัน นับเป็นการส่งทหารสหรัฐฯ เข้าไปในไต้หวันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี

โดยทหารฝึกซ้อม ถูกส่งมาที่ไต้หวันเป็นครั้งแรกในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ แต่ทว่าการปรากฎตัวของทหารอเมริกันเหล่านี้ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อนจนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

รายงานนี้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะเกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน ประกาศว่า ไต้หวันจะทำทุกอย่างที่จะทำได้ เพื่อปกป้องเสรีภาพและประชาธิปไตยของตัวเอง

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนชี้ว่า กองกำลังสหรัฐฯไม่ได้ตั้งอยู่ถาวรที่ไต้หวันมาตั้งแต่ปี 1979 เมื่อวอชิงตันได้เริ่มต้นสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนอย่างเป็นทางการ

ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้แต่ชี้ว่า “การสนับสนุนของเรา และความสัมพันธ์ทางความมั่นคงกับไต้หวัน สอดคล้องไปกับภัยคุกคามจากจีนในสถานการณ์ปัจจุบัน”

ส่วนกระทรวงกลาโหมไต้หวันปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นเช่นกัน แต่ทว่าระบุว่า การแลกเปลี่ยนกิจการทางการทหารทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเป็นไปตามแผนประจำปี อ้างอิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์

ด้าน จาค็อบ สโตกส์( Jacob Stokes )นักวิจัยโครงการความมั่นคงอินโด-แปซิฟิกประจำศูนย์ธิงแทงก์ ศูนย์เพื่อความมั่นคงอเมริกาใหม่ (Center for a New American Security)ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี แสดงความเห็นว่า “ถือเป็นก้าวสำคัญ โดยมีความมุ่งมั่นอยู่บนพื้นฐานไม่ต้องการให้เกิดการยั่วยุแต่เป็นการต้องการให้เกิดการพัฒนาสมรรรถนะทางการทหารของกองกำลังไต้หวันอย่างแท้จริง ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด”

กระทรวงต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สหรัฐฯหยุดให้ความช่วยเหลือแก่ไต้หวันทันที “จีนจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นในการปกป้องอธิปไตยและความถูกต้องทางดินแดนของตัวเอง” และเย้ยว่า ถ้าต้องการให้จีนกลัวนั้นจะต้องผิดหวัง เพราะทำเช่นนี้ยิ่งทำให้การรวมชาติไต้หวันเกิดเร็วขึ้น

ขณะที่หนังสือพิมพ์ โกลบอลไทม์ส รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 8 ต.ค.2564 ว่า คณะมนตรีรัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ “คณะรัฐมนตรี” ของจีนแถลงต่อต้านอย่างรุนแรงต่อการสมคบคิด ของการรวมตัวใดๆทางการทหารระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ พร้อมกับชี้ว่า จีนขอให้สหรัฐฯยึดมั่นต่อหนังสือแถลงการณ์ 3 ฉบับต่อปัญหาไต้หวันและยุติการยั่วยุใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทเปร่วมมือกับกองกำลังภายนอกเพื่อต้องการได้เอกราชและปฎิเสธการกลับร่วมคืนดินแดนกับจีน สิ่งนี้จะนำประชาชนไต้หวันไปสู่หายนะ และความพยายามของพวกเขานั้นจะนำไปสู่ความล้มเหลวในที่สุด

หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานเพิ่มเติมว่า ภาพถ่ายล่าสุดจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า ปักกิ่งได้ขยายฐานทัพอากาศของตัวเองที่ตั้งอยู่ใกล้ไต้หวัน โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวในกองทัพจีนและภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดยืนยันว่า  จีนได้ส่งเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ J-16D ที่ถูกออกแบบเพื่อรูปแบบการรบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังฐานทัพอากาศทางตะวันออก ใกล้ไต้หวัน

เซาท์ไชนน่ามอร์นิงโพสต์ชี้ว่า ฐานทัพอากาศทั้ง 2 แห่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกองบัญชาการตะวันออกของกองทัพจีนที่ดูแลช่องแคบไต้หวัน