นิสัยไม่เปลี่ยน!? ย้อนครั้ง “จักรทิพย์” แฉหมดเปลือก “ปวีณ” โกหกหวังทำลายตำรวจ เพราะผิดหวังไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง!?
กำลังเป็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากในขณะนี้ เมื่อทางด้านของ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ วาระพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ในประเด็นปัญหาการค้ามนุษย์ โดยได้ทำการโยงว่ามี นายตำรวจ นายทหาร รวมถึงนักการเมือง เข้าไปมีส่วนร่วมในขบวนการค้ามนุษย์
และที่เหล่าโซเชียลได้นำไปขยายต่อเห็นทีจะเป็น เรื่องของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ทำคดีและเปิดเผยข้อมูล จนต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย
ต่อมาได้มีประชาชนจำนวนมาก ต่างพากันแชร์คลิปเก่า ซึ่งในคลิปดังกล่าวนี้ ทางด้านของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้พูดผ่านสื่อโดยเป็นการชี้แจงแถลงข่าว เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.58 โดยทางด้านของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ แสดงความไม่พอใจ พล.ต.ต.ปวีณ อย่างเห็นได้ชัด และเป็นการแฉเบื้องหลังของ พล.ต.ต.ปวีณ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ว่า
ชมคลิป “จักรทิพย์” แฉหมดเปลือก “ปวีณ” โกหกหวังทำลายตำรวจ ลิงค์ด้านล่าง
https://www.facebook.com/107650574796329/videos/498313308312601/
ผมก็ไม่ทราบเหตุผลของท่าน ว่าทำไมต้องไปขอลี้ภัยถึงขนาดนั้น ท่านเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ลาออกไปแล้ว ผมก็ไม่ทราบเจตนาของท่านว่ามีเรื่องการเมืองแอบแฝงหรือเปล่า แต่ผมถือว่าการทำแบบนี้ ไม่รู้ว่าเป็นการทำร้ายประเทศหรือเปล่า ที่ออกมาให้ข่าวกับสื่อต่างประเทศว่ามีทหารเลว ตำรวจเลว ผมกำลังให้ฝ่ายกฎหมายดูว่าหมายถึงใคร
ส่วนกรณีที่ให้สัมภาษณ์ว่าถูกตำรวจชั้นผู้ใหญ่คุกคามนั้นท่านไม่ได้มาพูดกับผม แต่ไปพูดกับสื่อ แต่ส่วนที่ท่านเคยมาพูดกับผม ผมก็ได้แก้ปัญหาให้แล้ว หลังจากคำสั่งโยกย้ายออกแล้ว ผมให้ท่านเลือกเลยว่าจะไปอยู่ที่ไหน ยังไง
การแต่งตั้งโยกย้ายนี่ผมรับผิดชอบคนเดียว ผมได้สอบถามผู้บัญชาการแต่ละภาคแล้วว่า ใครจะปรับย้ายใคร อย่างไร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ยืนยันชัดเจนว่า ไม่เอาพล.ต.ต.ปวีณ แล้วถ้าผมยัดเยียดเข้าไป ตำรวจก็พัง อยู่ไม่ได้ เมื่อตำรวจภูธรภาค 8 ไม่รับพล.ต.ต.ปวีณ ผมก็ต้องหาที่ให้ท่านอยู่ สอบถามที่อื่นก็ไม่รับ ถ้าผมเอามาอยู่จเรก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ แต่เมื่อสอบถามไปยังผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ท่านรับ เพราะต้องการให้พล.ต.ต.ปวีณไปดูเรื่องสำนวน
ผมไม่ได้กลั่นแกล้งพล.ต.ต.ปวีณ ผมดูจากประวัติ ท่านเคยสมัครใจไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความรู้ด้านการสอบสวนเรื่องโรฮิงญาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แต่ท่านพูดไม่หมด ทำให้สังคมสับสน เล่นกับสื่อ ทั้งสื่อไทยสื่อนอก การออกมาโวยวายแบบนี้มีวินัยหรือเปล่า มาบอกว่าการส่งไปจังหวัดชายแดนภาคใต้คือการล็อกเป้า แล้วตำรวจที่อยู่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะคิดอย่างไร” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการทำคดีค้ามนุษย์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ตอบว่า “ผมไม่ทราบ สำนวนเขาคุมอยู่ ผมไม่เคยไปแทรกแซง ท่านชอบบอกว่ามีการแทรกแซงจากรัฐบาลบ้าง จากนายตำรวจระดับสูงบ้าง ก็ขอให้ระบุชื่อมาเลย จะได้ฟ้องได้ถูกตัว อย่ามาหาว่าตำรวจเลว ทหารเลว ผมไม่ทราบว่าพูดอย่างนี้เพื่ออะไร มันเป็นการต่อความยาวสาวความยืดหรือเปล่า ในองค์กรผม ผมเชื่อว่าตำรวจรู้ดีที่สุด ไปถามเพื่อนๆ พล.ต.ต.ปวีณว่าเป็นยังไง ตอนนี้่เรื่องโรฮิงญาทั้งหมดผมมอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ดูแลแทน พล.ต.อ.เอก
เจ้าพนักงานผมมีเป็นร้อยคน ผมเห็นมีปัญหาอยู่คนเดียว แล้วผมจะปกครองหน่วยยังไง เขาทำงาน เขาคาดหวังอะไรหรือเปล่าผมไม่ทราบ ทำงานเรื่องนี้เสร็จควรจะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้น พอไม่ได้แล้วผิดหวัง ต้องพูดให้หมด อย่าพูดครึ่งเดียว อย่างคดีระเบิดราชประสงค์ จับได้หมด แต่ตำรวจที่ทำงานบางคนก็ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง บางคนโดนย้ายอีก มันคือการบริหารงานบุคคลขององค์กร
ต้องเข้าใจด้วย ตำรวจทหารต้องมีวินัย ไปบอกว่าล็อกเป้า กลัวตาย ศัตรูเยอะ แล้วเพื่อนผมที่อยู่ ศชต.ทำไมยังทำงานได้ โรฮิงญาจะมีอิทธิพลอะไรนักหนา แล้วที่บอกว่าพื้นที่ในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 9 มีการตั้งแคมป์ (โรฮิงญา) มาหลายปี นั่นพูดถึงผมโดยตรงหรือเปล่า ผมเคยเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แล้วท่านเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งอยู่ต้นทางเลย แต่ทำไมไม่ดำเนินการ พูดอย่างนี้ไม่ถูก
อย่าเอาองค์กรมาขาย อย่าทำร้ายประเทศ เรื่องส่วนตัวคือเรื่องส่วนตัว ตอนที่มาพูดจากันก็เข้าใจกันดี แต่พอกลับไปก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ผมไม่เคยไปมีอะไรกับท่าน ขอให้พูดให้หมด ทหารเลว ตำรวจเลวคือใคร ใครแทรกแซง อย่างนี้เราแก้ปัญหาไม่ถูกหรอก แต่เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายผมรับผิดชอบเต็มๆ อยู่แล้ว
ท่านไปอ้างว่าท่านทำงาน คดีเยอะ ศัตรูเยอะ แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับโจรมาตลอดชีวิต ผมเองก็จับโจรมาเยอะแยะก็ยังเดินลอยหน้าลอยตาได้ ไม่เห็นมีใครมายิงผมเลย