วิกฤตยูเครนได้กลายเป็น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับสหรัฐและนาโตอย่างชัดเจนมากขึ้นทุกที เมื่อรัสเซียไม่ได้บุกยูเครนอย่างที่สหรัฐหวัง เนื่องจากรัสเซียเดินเกมรุกทางการทูต และตอบโต้สงครามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเดินหน้าแสดงแสนยานุภาพทางทหารอย่างไม่ลดละ ล่าสุดกองทัพรัสเซียและเบลารุสได้ขยายเวลาซ้อมรบร่วมกัน โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับ “ภัยคุกคามจากภายนอกในระดับสูงขึ้น” ขณะที่สหรัฐเข้าร่วมการซ้อมรบกับโปแลนด์ซึ่งไม่ห่างจากชายแดนรัสเซีย ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดด้วยเสียงปืนและระเบิดในดอนบาสภาคตะวันออกของยูเครน
วันที่ 20 ก.พ.2565 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กองกำลังเพื่อการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซียดำเนินการซ้อมรบครั้งใหญ่ในวันเสาร์ที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน หลังวิกฤตการณ์ยูเครนทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น มีการปะทะทางทหารเกิดต่อเนื่องในยูเครนตะวันออก จนทำให้สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์ อพยพประชาชนเข้าสู่ชายแดนรัสเซียตั้งแต่วันศุกร์จนถึงปัจจุบัน มีพลเมืองผู้สูงอายุ ผู้หญิงและเด็กเดินทางสู่ค่ายอพยพชั่วคราวชายแดนรัสเซียแล้วกว่า 50,000 คน
แถลงการณ์ของทำเนียบเครมลินระบุว่า ปูตินสังเกตการณ์การซ้อมรบจากศูนย์ยุทธการร่วมกับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก แห่งเบลารุส
เหล่าทัพต่างๆ ของรัสเซีย อาทิ กองกำลังการบินและอวกาศ เขตมณฑลทหารภาคใต้ กองกำลังจรวดทางยุทธศาสตร์ กองเรือทะเลเหนือ กองเรือทะเลดำ ล้วนเข้าร่วมในการฝึกซ้อมดังกล่าว
รายงานระบุว่ากองกำลังการบินและอวกาศได้ยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงคินชาล (Kinzhal) ขณะเรือรบและเรือดำน้ำของกองเรือทะเลเหนือและกองเรือทะเลดำได้ยิงขีปนาวุธร่อนคาร์ลิบร์ (Kalibr) และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง เซอร์คอน (Tsirkon) ใส่เป้าหมายทางทะเลและเป้าหมายภาคพื้นดิน
มีการยิงขีปนาวุธอิสคานเดอร์ (Iskander) จากสนามฝึกในภูมิภาคอัสตราฮัน ทางตอนใต้ของรัสเซีย และยิงขีปนาวุธข้ามทวีปยาร์ส (Yars) จากศูนย์อวกาศเพลเซ็ตสก์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อโจมตีเป้าหมายบนคาบสมุทรคัมซัตกาตามแผนการรบทางยุทธศาสตร์
ด้านเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ ตูโปเลฟ-95เอ็มเอส (Tu-95MS) ได้ยิงขีปนาวุธร่อน หลายลูก ส่วนเรือดำน้ำขีปนาวุธนิวเคลียร์คาเรเลีย (Karelia) ของกองเรือทะเลเหนือได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัวซิเนวา (Sine) จากทะเลแบเรนตส์ไปยังคาบสมุทรคัมซัตกา
ทำเนียบเครมลินกล่าวว่ามีการวางแผนฝึกซ้อมรบเพื่อการป้องปรามทางยุทธศาสตร์ดังกล่าวไว้ก่อนหน้านี้และแจ้งกำหนดอย่างเปิดเผย โดยในระหว่างนี้รัสเซียได้มีการตรวจสอบความพร้อมรบของกองทหารและความเสถียรของอาวุธยุทโธปกรณ์
แถลงการณ์ระบุว่าภารกิจทั้งหมดเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ และขีปนาวุธทั้งหมดได้โจมตีเป้าหมายได้ตามที่กำหนดไว้
สำนักข่าวสปุ๊ตนิก ได้รายงานในวันเดียวกันว่า อีกด้านหนึ่งที่ทำให้รัสเซียและเบลารุสต้องขยายวันซ้อมรบออกไปคือ ได้พบว่า สหรัฐจัดซ้อมรบกับโปแลนด์ใกล้ชายแดนยูเครนซึ่งไม่ห่างจากแหล่งซ้อมรบของรัสเซีย-เบลารุส
มาริอุส บลาสแซค(Mariusz Blaszczak) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ โพสต์ลงใน Twitter เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ก.พ.2565ว่า ทหารสหรัฐที่เพิ่งมาถึงโปแลนด์ได้เริ่มซ้อมรบทางทหารใกล้กับชายแดนยูเครนแล้ว
มอสโกว์ได้แสดงความกังวลอย่างมากต่อกิจกรรมทางทหารของ NATO ใกล้พรมแดนรัสเซีย ซึ่งถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ รัสเซียได้ชี้ให้เห็นว่าตะวันตกอ้างว่า “การรุกราน” ของยูเครนดูเหมือนจะถูกใช้เป็นข้ออ้างในการผลักดันการปรากฏตัวของกองทัพนาโตในทางตะวันออกยุโรปประชิดรัสเซีย
น่าสังเกตุว่า รายงานการเคลื่อนทหารเพื่อซ้อมรบของสหรัฐกับโปแลนด์นั้นไม่มีในรายงานของสื่อตะวันตกแม้แต่ฉบับเดียว สื่อรัสเซียรายงานจากการติดต่อขอสัมภาษณ์ฝ่ายบริหารทำเนียบขาว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับสปุตนิกให้ความเห็นเกี่ยวกับการซ้อมรบที่ดำเนินอยู่ในโปแลนด์ที่เกี่ยวข้องกับทหารสหรัฐฯว่า การจัดวางกำลังทหารขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความขัดแย้ง เขากล่าวว่า “อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้ว การวางกำลังของ NATO นั้นเป็นการป้องกันและเป็นสัดส่วนเสมอ พวกเขาไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความขัดแย้ง แต่เพื่อป้องกันความขัดแย้ง” คืออเมริกาและพันธมิตรซ้อมรบได้เป็นสิ่งถูกต้องเมื่อรัสเซียซ้อมรบนี่ผิด
ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวเดอะมอสโกว์ไทมส์รายงานว่า กองกำลังสหรัฐฯ เสริมกำลังใกล้ชายแดนโปแลนด์-ยูเครน และเตรียมการซ้อมรบร่วม ทั้งนี้สหรัฐฯ ระบุว่า กำลังวางแผนที่จะส่งทหารเพิ่มอีกประมาณ 4,700 นายชั่วคราวไปยังสหภาพยุโรปและโปแลนด์ สมาชิกองค์การนาโต เพื่อตอบโต้การเสริมกำลังทหารของรัสเซียรอบๆ ยูเครน
การมาถึงดังกล่าวจะทำให้กองทหารสหรัฐในโปแลนด์มีกำลังพลประมาณ 10,000 นายในการหมุนเวียน
คริส โดนาฮู ผู้บัญชาการกองบินที่ 82 ซึ่งเป็นทหารสหรัฐคนสุดท้ายที่ออกจากอัฟกานิสถาน กล่าวในตอนเริ่มต้นของภารกิจว่า กองทหารเตรียมการเพื่อปกป้องส่วนใดส่วนหนึ่งของสมาชิกนาโต
ในช่วงเวลาเดียวกัน ปธน.โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้แห่งยูเครน ได้เข้าร่วมประชุมกับพันธมิตรนาโตที่เมืองมิวนิค เยอรมนีเมื่อวันเสาร์ที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยเรียกร้องให้รับเข้าเป็นสมาชิกนาโต และขอปลดออกจากรายชื่อ ประเทศสมาชิกไร้อาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่สหรัฐและโปแลนด์แสดงเจตจำนงค์ชัดเจนจะสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารแก่ยูเครนอย่างเต็มที่ต่อไป ท่ามกลางเสียงระเบิดและกระสุนปืนในดอนบาสที่ทั้งยูเครนและดอนบาสต่างรายงานว่าเป็นฝ่ายถูกระดมยิง