จากที่ กลุ่มทะลุวัง นำโดย ตะวัน และ ใบปอ ได้เดินทางมาจัดกิจกรรมสำรวจโพลล์ความคิดเห็นที่มาเดินศูนย์การค้า หัวข้อ “ขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนหรือไม่” ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ผ่านไปมาได้ติดสติกเกอร์เพื่อแสดงความคิดเห็นนั้น
ขณะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำศูนย์การค้ามาประกาศและขอความร่วมมือว่า “สถานที่ส่วนบุคคลสยามพารากอน ขอสงวนสิทธิ์ พื้นที่ภายในและบริเวณรอบอาคาร เฉพาะกิจกรรมที่ได้ขอล่วงหน้า กรณีที่มีการฝ่าฝืนบริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินการตามกฏหมาย รวมถึงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย”
ต่อมากลุ่มทะลุวังจะเดินไปส่งผลสำรวจ โดยใช้เส้นทางผ่านแยกปทุมวัน เพื่อต้องการจะไปส่งผลสำรวจที่วังสระปทุม ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งก่อนเดินทางไปถึงบริเวณทางออกของศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้มีเหตุการณ์ชุลมุนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัดกั้น และจะยึดแผ่นโพลล์สำรวจดังกล่าว
ด้าน พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีกลุ่มทะลุวัง ที่สยามพารากอน และบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากการชุมนุมมีพฤติกรรม และการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
“รวมถึงคุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบ และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ย้ำว่าแม้กรุงเทพฯประกาศเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (สีฟ้า) การชุมนุม หรือรวมตัวทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เข้าข่ายความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ ขอให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักเพื่อให้เกิดความสงบสุข และความปลอดภัยกับประชาชน”
ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดคำถามและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ชุมนุมว่าต้องการสื่อสารอะไร ทำไมต้องไปวังสระปทุม ทำในลักษณะคุกคาม กรมสมเด็จพระเทพฯ หรือไม่ ??? โดยเฉพาะการอ้างเหตุผลขบวนเสด็จฯ เพราะที่ผ่านมามีเรื่องราวปรากฏชัดว่าขบวนเสด็จฯไม่ได้ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
ทีมข่าวเดอะทรูธ อยากจะพาย้อนไปเมื่อไม่นานมานี้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเพจเฟซบุ๊ก ชมรมคนรักพระมหากษัตริย์ของชาติไทย ร้อยเอก ปิยภัทร ปัญจมานนท์ นายทหารยุทธการ กรมราชองครักษ์ ได้เผยแพร่เรื่องราวไว้ว่า
“สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระจริยวัตรที่งดงามดั่งพระราชบิดา และพระราชมารดา ทรงเป็นเจ้าฟ้าของคนเดินดิน ที่ไม่โปรดการถือพระองค์ และทรงมีความเป็นกันเองต่อข้าราชบริพารรวมไปถึงพสกนิกรของพระองค์ด้วย
หลายครั้งที่เราเห็นเหมือนรถขบวนเสด็จฯจะผ่านไปได้ตลอด แต่มีบ่อยครั้งนะครับ ที่ถ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงทราบว่า ช่วงเวลานั้นรถติด การให้รีบระบายรถเพื่อให้ขบวนเสด็จฯผ่านจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน ก็ทรงเลือกปล่อยให้รถพระที่นั่งติดอยู่ในท้องถนน ความที่ทรงเกรงใจประชาชนอย่างที่สุด มีรับสั่งกับราชองครักษ์ว่า ไม่ต้องประสานเรื่องปิดถนน
หรือบางทีมีรับสั่งให้เปลี่ยนเส้นทางมาใช้ทางด่วน หากเจ้าหน้าที่ทางด่วนเคลียร์ไม่ทันก็ไม่เคยทรงตำหนิ รถติดก็ปล่อยให้ติด ทุกครั้งก่อนเสด็จฯ จะมีรับสั่งกับราชองครักษ์ทุกครั้งว่า ขอให้ปิดถนนในช่วงใกล้เวลาที่พระองค์ทรงเสด็จจริงๆ และเมื่อเสด็จผ่านไปแล้วให้เปิดใช้เร็วที่สุด อย่าให้กระทบกับประชาชน…นี่คือสิ่งที่ทรงกำชับทุกครั้ง
นับได้ว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ทรงมีพระจริยวัตรที่เรียบง่าย ไม่ต่างจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงไม่เคยถือพระองค์และไม่โปรดพิธีรีตองใดๆ ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกร และทรงห่วงใยว่าพสกนิกรจะไม่สะดวกหากจะต้องปิดถนนเพราะขบวนเสด็จของพระองค์ ไม่แปลกใจที่พสกนิกรทั่วทั้งแผ่นดินจะยกย่องให้พระองค์เป็นเจ้าฟ้าคนเดินดิน เป็นที่รักของปวงชนชาวไทยเสมอมา”