ยื้อต่อ!!เลื่อนลงมติต่อสัญญาฯ “สีเขียว” แลกหนี้ 3.7 หมื่นล้าน เหตุภูมิใจไทยยกทีมโดดหนุนคมนาคมค้านสุดลิ่ม

1222

วันนี้ มหาดไทยชงเคาะสัญญาร่วมลงทุนต่อสัมปทานบีทีเอสแลกหนี้กว่า 3 หมื่นล้านบาท “วิษณุ” ชี้หากมีข้อทักท้วง อาจมีการให้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือถ้าครม.อนุมัติ ใครจะฟ้องประเด็นไหนก็ว่ากันต่อไป  ด้านคมนาคมยืนยันค้านถึงที่สุด ส่งผลรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยลาประชุมพร้อมกัน 7 คนและส่งจดหมายแสดงจุดประสงค์คัดค้านการต่อสัมปทานสายสีเขียว

วันที่ 8 ก.พ.2565 การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีประเด็นที่หลายฝ่ายจับตาดู คือเรื่องการต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวมูลค่า 4 แสนล้านบาทให้เอกชนอีก 30 ปี เพื่อแลกกับภาระหนี้ 3.7 หมื่นล้านบาทของกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีรายงานข่าวว่ารัฐมนตรีในสังกัดของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่เห็นด้วยจะไม่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้

ก่อนหน้านี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่โครงการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้กับทางบีทีเอส ซึ่งจะเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ 8 ก.พ.ว่า ทางกระทรวงมหาดไทยก็คงจะนำเสนอต่อที่ประชุมครม. แต่ถ้าครม.ยังติดใจว่ายังไม่พร้อมก็ดึงกลับออกไปก่อนได้ ไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ซึ่งโครงการนี้เคยเสนอมาแล้วและดึงออกไปแล้วหนหนึ่ง

เมื่อถามว่าถ้า เข้าครม.มาได้แสดงว่าปัญหาที่เคยมีได้คลี่คลายแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ทางกระทรวงมหาดไทยได้รายงานว่า ได้มีการทำความกระจ่างแจ้งแล้วในระดับหนึ่ง ก็เอาเข้ามาได้ ถ้าครม.ยังติดใจอยู่ก็ส่งกลับให้กระทรวงมหาดไทยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป

เมื่อถามว่าหากครม.พิจารณาให้โครงการนี้ผ่านไปแล้ว และทางฝ่ายค้านยังคงติดใจและนำมาอภิปรายในสภา โครงการนี้จะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ ก็เดินต่อไป ติดตรงไหนก็แก้ตรงนั้น ส่วนที่จะไม่พอใจอะไรกันถ้าครม.ผ่านไปแล้วก็ไปหาช่องทางฟ้องร้องกันโดยวิธีอื่นเอา แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ปกติทางฝ่ายค้านเขาก็จะยื่นอภิปรายในสภาอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร

แต่ล่าสุด ครม.ตัดสินใจเลื่อนการลงมติ พิจารณาต่อสัญญารถไฟฟ้าสีเขียวไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากทีมคณะรัฐมนตรี 7 คนลาประชุมพร้อมส่งหนังสือแสดงเจตนารมย์ค้านแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมลงทุน รถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามข้อเสนอของ กทม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ได้มีเอกสาร ที่ นร.0403(กร 3)/1861 ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เรื่องขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งมีเนื้อหา ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของกรุงเทพมหานคร ตามความเห็นและเหตุผลของกระทรวงคมนาคม โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตามที่ สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งเชิญประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 6/2565 ในวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.00น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทําเนียบรัฐบาล โดยมี ระเบียบวาระการประชุมตามอ้างถึง นั้น

อ้างตามวาระเรื่องเพื่อพิจารณา ลําดับที่ 3 เรื่องขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบ ร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขอเรียนว่าไม่เห็นด้วยกับการดําเนินการของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ตามความเห็นและเหตุผลของกระทรวงคมนาคมตามหนังสือกระทรวงคมนาคม ด่วนที่สุด ที่ กค (ปคร) 0208/24วันที่ 7 กุมภาพันธ์2565 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ 

ขณะเดียวกัน นายศักดิ์สยาม ยังได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงเลขาธิการ ครม. เรื่อง ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้พิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมของ กทม. แล้ว ขอยืนยันตามความเห็นเดิมว่า ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กทม. เนื่องจากข้อมูลที่ กทม. จัดทำเพิ่มเติมนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจริงที่ทำให้การวิเคราะห์ของกระทรวงคมนาคมแตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะในประเด็นของการคำนวณอัตราค่าโดยสาร การรองรับระบบตั๋วร่วม และความชัดเจนของประเด็นข้อกฎหมาย

นอกจากนี้ ปัจจุบันการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังคงเป็นหน่วยงานเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสิ่งก่อสร้างและที่ดินตลอดแนวโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 ช่วง อันเป็นสาระสำคัญที่ไม่อาจเห็นด้วยต่อแนวทางการดำเนินการตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย นอกเหนือจากประเด็นอื่นๆ ที่กระทรวงคมนาคมได้เคยนำเสนอและแจ้งยืนยันในครั้งนี้

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมขอให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม กรณีที่ กทม. รายงานว่าการโอนกรรมสิทธิ์ยังไม่สมบูรณ์เนื่องจาก รฟม. ยังไม่สรุปรายละเอียดด้านการเงินช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ทำให้ไม่สามารถรับโอนโครงการได้นั้น ขอรายงานข้อเท็จจริงว่า กทม. รฟม. สำนักงบประมาณ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมเพื่อหารือสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายโครงการ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-ดูคต ร่วมกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2563 

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามเงื่อนไขการอนุญาตให้เข้าพื้นที่กรณีการติดตั้งสะพานเหล็กแยกหทัยราษฎร์ และแยกพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งรอคำยืนยันจาก กทม. เนื่องจากการพิจารณากรอบวงเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จะได้ข้อสรุปมีความจำเป็นต้องทราบความชัดเจนของแนวทางการติดตั้งสะพานเหล็กทั้ง 2 แห่ง เพื่อประกอบการจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายของโครงการ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2563 และวันที่ 2 พ.ย. 2564 โดยขอทราบผลการพิจารณาของ กทม. และปัจจุบัน กทม. ยังไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาให้กระทรวงคมนาคมทราบ

รายงานข่าว ระบุว่า วันนี้ รัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ยื่นหนังสือลาการประชุม ครม. จำนวน 7 คน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายทรงศักดิ์ ทรงศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

อย่างไรก็ตาม นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ครม.ได้เลื่อนการพิจารณาวาระขอต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวระหว่างกรุงเทพมหานครกับ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ระยะเวลา 30 ปี (ปี 2572-2602) ออกไปก่อน โดยให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงคมนาคมหารือกันให้ได้ข้อสรุปในประเด็นที่ทั้ง 2 ฝ่าย ยังมีความเห็นแย้งกันอยู่แล้วให้นำเข้า ครม.อีกครั้ง