กระทรวงการคลังรัสเซียสวนจุดยืนเกี่ยวกับการห้าม bitcoin ของธนาคารชาติที่เสนอว่าห้ามทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลคริปโตเคอร์เรนซีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และดูเหมือนว่าปธน.ปูตินจะเห็นด้วยกับกระทรวงการคลัง ชูศักยภาพประเทศ มีความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขุดคริปโตภายในประเทศ ปัจจุบันคริปโตเคอเรนซีได้รับอนุญาตเป็นส่วนใหญ่ สามารถใช้สำหรับธุรกรรมทางการเงินได้ แต่ห้ามใช้เพื่อซื้อสินค้าหรือบริการ
จากการเปิดเผยของ theblockcrypto ในการประชุมทางวิดีโอเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2565 ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของเขาจัดการเจรจาร่วมกันกับธนาคารกลาง ในเรื่องคริปโตเคอเรนซี โดยในขณะที่เขายอมรับการเกิดของเงินดิจิทัล ทั้งคริปโตเคอเรนซีและเงิน CBDC:central bank digital currency ในลักษณะเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียว่า “มีความเสี่ยงบางอย่าง แต่ประการแรกและสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือประโยชน์สำหรับพลเมืองของประเทศ เนื่องจากคริปโตมีความผันผวนอย่างมาก” โดยปูตินได้กำชับหน่วยงานของเขาไม่ให้ละเลยข้อได้เปรียบที่รัสเซียมี
เข้ากล่าวถึงข้อได้เปรียบในอุตสาหกรรมว่า “เรายังมีความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการขุดคริปโต (crypto) โดยเฉพาะไฟฟ้าส่วนเกินและทีมที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีในประเทศ”
ในทางกลับกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางของรัสเซียได้เปิดเผยข้อเสนอในการห้ามการทำธุรกรรม crypto และการขุดในรัสเซียโดยสมบูรณ์ ซึ่งในรายงานบางฉบับระบุถึงการเชื่อมโยงกับแรงกดดันจาก Federal Security Service แต่ปูตินไม่ได้กล่าวถึงการปราบปรามกลุ่มแรนซัมแวร์ของรัสเซียในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นการแบนที่เสนอนั้นได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้นำหลายคนว่าเป็นการต่อต้านทางการเมืองของรัสเซียและยังส่งผลกระทบต่อตลาด crypto ทั่วโลกด้วย
ต่อมาวันที่ 27 ม.ค.2565 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์อ้างถึงจดหมายที่ส่งโดยหน่วยงานของรัฐบาลถึงรองนายกรัฐมนตรี ดมิตทรี เชอร์นีเชนโก (Dmitry Chernyshenko) ระบุว่าไม่เห็นด้วยที่จะห้ามการทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี และเสนอกำหนดกฎเกณฑ์กระแสการหมุนเวียนในระบบและการจัดหามาตรการควบคุม ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะลดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของระบบการเงินและลดการใช้ cryptocurrencies เพื่อจุดประสงค์ที่ผิดกฎหมาย”
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ส.ส. 2 คนอ้างว่าการแบนคริปโตฯที่เสนอโดยธนาคารกลาง (Bank of Russia) ไม่ได้รับการสนับสนุนจากส.ส.ส่วนใหญ่รวมถึงรัฐสภา ตำรวจ และ Federal Security Service (FSB) พวกเขาอธิบายมุมมองที่ว่าข้อห้ามจะล้มเหลวและทำให้รัสเซียเสียชื่อที่ทำเรื่องน่าหัวเราะสำหรับทั้งโลก บรรดาส.ส.ไม่เห็นด้วยต่อมุมมองของธนาคารกลางที่ว่า คริปโตฯสกุลเงินดิจิทัลเป็นภัยคุกคามเนื่องจากการไม่เปิดเผยตัวตนของการทำธุรกรรม ซึ่งหมายความว่าเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน และการจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย
ทั้งนี้จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ รัสเซียถือว่าเป็นประเทศที่มีกำลังขุดเป็นอันดับที่ 3 เป็นรองจากสหรัฐฯ และคาซัคสถาน ในด้านอุตสาหกรรมการขุดคริปโตโดยวัดจากอัตราแฮชเรทของ Bitcoin ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่นักขุดย้ายฐานการผลิตออกจากจีนท่ามกลางการปราบปรามอย่างหนัก ขณะที่คาซัคสถานที่อยู่ใกล้เคียง ได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนพลังงาน รวมไปถึงความไม่เสถียรและการปิดกั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของรัฐบาลในบางครั้ง