อดีตรองอธิการ มธ. ซัดธนาธร-อานนท์ ประกาศ 14 ต.ค. เรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ เหน็บบูรณาการกันแบบไร้รอยต่อดีจัง?

จากกรณี 8 ต.ค.63 ที่ผ่านมา บริเวณสนามหลวง ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมแถลงการณ์จุดยืนในการชุมนุมวันที่ 14 ต.ค.63 โดยได้ประกาศชื่อกลุ่มใหม่ว่า “กลุ่มคณะราษฎร” โดยได้ยื่นข้อเสนอทั้งหมดที่จะให้รัฐบาลเข้ามาเจรจา 3 ข้อ คือ 1. นายกฯ ต้องลาออก 2. ร่างรธน.ใหม่ทั้งฉบับ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นกรณีดังกล่าวว่า ทนายอานนท์ให้สัมภาษณ์ก่อนวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ว่า ถ้าให้ขึ้นพูดในงาน 44 ปี 6 ตุลาโดยไม่ให้แตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่ไปเสียดีกว่า

ถึงวันงาน ทนายอานนท์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการนัดชุมนุมใหญ่ วันที่ 14 ตุลาคม 2563 ว่า เป้าหมายหลักเป็นเรื่อง การขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ก็จะมีเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย

วันเดียวกัน คุณธนาธร พูดระหว่างการเสวนาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า ไม่พูดถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เอาแต่ไล่พลเอกประยุทธ์อย่างเดียวไม่ได้ เพราะพลเอกประยุทธ์ออกไป ก็จะมีการตั้งคนใหม่แบบเดียวกันมาแทน เพราะพลเอกประยุทธ์ไม่ใช่ “นายใหญ่!”

ขณะนี้ทนายอานนท์และพวกเปลี่ยนใจกลับเอาเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเรื่องหลัก ในการชุมนุมวันที่ 14 ตุลาคม 2563 แล้วเรียบร้อย ช่างทำงานสอดคล้อง บูรณาการกัน แบบไร้รอยต่อดีจัง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไปกล่าวในงานเสวนารำลึกครบรอบ 44 ปี 6 ตุลา จัดโดยสโมสรนิสิต คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุใจความบางช่วงตอนในเพจเฟซบุ๊ก หัวข้อ “สานต่อภารกิจ 6 ตุลา อย่าทิ้งเพื่อนเราให้โดดเดี่ยว” ระบุว่า เหตุการณ์ 6 ตุลา เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ระหว่างอำนาจที่มาจากการเลือกตั้ง และอำนาจที่มาจากจารีตประเพณี ซึ่งมาถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเราจะให้อำนาจไหนเป็นอำนาจนำในสังคม

ในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของสายธารประวัติศาสตร์ เป็นผู้รับภารกิจการต่อสู้มาจากคนยุค 6 ตุลา มีภารกิจที่เราต้องทำร่วมกันให้สำเร็จ คือการแก้รัฐธรรมนูญ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูประบบเศรษฐกิจ ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ หากทำเช่นนั้นได้ เราจึงจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยได้สำเร็จ

“ผมยืนยันว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพูดเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ พูดด้วยความปรารถนาดี ด้วยความหวังว่าสังคมจะร่วมกันหาทางให้สถาบันกษัตริย์อยู่ร่วมกับประชาธิปไตยได้อย่างมั่นคงและสง่างาม หากปล่อยให้มีคนแค่ไม่กี่คนพูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ คุณจะโดดเดี่ยวพวกเขา ปล่อยให้พวกเขาเผชิญกับคดีความและการคุกคาม เมื่อเป็นเช่นนี้จะไม่มีใครออกมาสู้เพื่อพวกคุณ มาเรียกร้องแทนพวกคุณ เราประชาชนมีเพียงจำนวน เราไม่มีตุลาการ ไม่มีปืน ไม่มีรถถัง เรามีแต่ปริมาณ เราเป็นจำนวนนับ ถ้าเราทิ้งเพื่อนของเรา จะไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาสู้อีกเลย