จากกรณีที่โลกโซเชียล ได้มีประชาชนหลายคนคอมเม้นต์ถาม และแท็กไปยังหน้าเพจของสื่อหลักหลายช่อง ว่าอย่าเงียบประเด็นของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีการฉีดวัคซีนแบบมีพิรุธ ในเวลา 19.15 น. ภายในโรงพยาบาลชื่อดัง จังหวัดสมุทรปราการ โดยหลาย ๆ คอมเม้นต์ ต่างบอกว่ารอการรายงานข่าวของพวกคุณอยู่
และต่อมาก็มีกระแสลุกลามไปยังนายปิยบุตร เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่เป็นเพื่อนซี้ของนายธนาธร โดยเมื่อนายปิยบุตร เคลื่อนไหวในเพจเฟซบุ๊ก ก็มีประชาชนเข้าไปคอมเม้นต์ทันทีว่า รอให้อาจารย์ออกมาลุยอยู่นะครับ และก็มีคนคอมเม้นต์ตามว่า “สหายของมันด้อยค่าวัคซีน แต่แล้วแอบดอดไปฉีดวัคซีนก่อนใคร อย่าแปลกใจที่เมื่อปีที่แล้วอดีตผู้สมัครเคยออกมาแฉถึงความไม่เท่าเทียมในพรรค เป็นข่าวดังอยู่ ” พร้อมติด #วัคซีน VIP ด้วย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2565 น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกและกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีดรามา “วัคซีน VIP” ของแกนนำคณะก้าวหน้า ระบุว่า ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2564 รัฐบาลกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันดีเดย์ฉีดวัคซีนแห่งชาติ มีการเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์หลายช่องทางล่วงหน้า โดยเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้กับชาวไทยทุกคนที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปในวันที่ 7 มิ.ย. โดยเฉพาะในพื้นที่ระบาดสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะฉะนั้น ข้อกล่าวหาที่บอกว่า ตนและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แย่งวัคซีนคนแก่ จึงไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง
โดยนายธนาธร ได้เข้ารับวัคซีนเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 และตนได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2564 หากดูจากสถิติที่รวบรวมโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ณ วันที่ 15 ก.ค. 2564 ระบุว่า ในจำนวนประชาชนทั้งหมดที่ได้รับวัคซีน 50% เป็นประชาชนทั่วไปในพื้นที่เสี่ยง ตามด้วยผู้สูงอายุ 20% และคนกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง 7% ส่วนสถิติรายจังหวัด ประชาชนในกรุงเทพฯ ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 45% ขณะที่สมุทรปราการฉีดไป 24% เพราะฉะนั้นคนที่ฉีดวัคซีนในเดือน ก.ค. จึงเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนกลุ่มใหญ่ที่รับวัคซีนตามนโยบายของรัฐบาล จะเรียกว่าเป็นวีไอพี หรือ แซงคิวใครไม่ได้
