หวังดีหรือร้าย? เด็กพปชร.ชิงยื่นวินิจฉัยปม 8 ปี เพื่อความสง่างาม ไม่สนนายกฯโกรธ

1282

จากที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงฝ่ายกฎหมายสภาฯให้ความเห็นถึงวาระการดำรงตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯได้ถึงปี 2570 นั้น

ทั้งนี้นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันจะใช้คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 โดยบทบัญญัติได้ระบุว่าจะดำรงตำแหน่งนายกฯ ติดต่อกันเกิน 8 ปีมิได้ แน่นอนเมื่อถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นนายกฯ อยู่ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่ครบ 8 ปีของการดำรงตำแหน่งนายกฯ โดยวันที่ 24 สิงหาคม 2565 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะเข้าชื่อ ส.ส.เพื่อขอให้ประธานสภาฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย

“ส่วนฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาเป็นเพียงความเห็นภายในที่จะให้กับประธานรัฐสภา ไม่มีผลผูกพันใดๆกับใคร จะใช้อย่างไรแล้วแต่ในองค์กร ประธานรัฐสภาไม่มีหน้าที่วินิจฉัยเพียงแต่ทำหน้าที่ตรวจสอบในชั้นธุรการว่าวิธีการเข้าชื่อ ส.ส.เพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญถูกต้องหรือไม่” นพ.ชลน่าน กล่าว

ล่าสุดวันนี้ 4 มกราคม 2565 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงปัญหาการนับวาระพล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบ 8 ปี จากการติดตามบรรดานักการเมือง นักกฎหมาย ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ สรุปได้ว่าวันที่ 24 สิงหาคม 2565 จะยื่นเรื่องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย

“ตนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรอถึงวันนั้น เพราะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ให้สิทธิ์สามารถยื่นร้องผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ ฉะนั้น ตนจึงตั้งใจว่าวันที่ 10 ม.ค.นี้ จะไปยื่นสำนวนต่อกกต. ให้ศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย และเมื่อถึงวันที่ 24 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญก็สามารถสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้เลย เพราะไม่เช่นนั้นหากมีคำสั่งการบริหารราชการต่างๆเกิดขึ้นในขณะนั้นจะยุ่งยาก

ถ้าเป็นแบบที่ฝ่ายค้านวางกำหนดไว้ คือวันที่ 24 สิงหา ก็ได้แค่เข้าชื่อเพื่อเสนอนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ซึ่งตามขั้นตอนก็ยังต้องตรวจสอบรายชื่อส.ส. จากนั้นถึงจะส่งศาลรัฐธรรมนูญ ผมถามว่าระหว่างแบบที่ผมทำกับแบบที่ฝ่ายค้านทำ แบบไหนเร็วกว่ากัน ฝากบอกฝ่ายค้านด้วยว่าอ่านกฎหมายให้แม่นหน่อย เป็นส.ส.มา 2 ปีกว่าแล้ว การยื่นร้องเพื่อพิจารณาวาระนายกฯ ครบ8 ปี ใช้เพียงแค่เสียงของหัวหน้าแต่ละพรรคของฝ่ายค้านก็เพียงพอแล้ว ถ้าฝ่ายค้านเขียนสำนวนไม่ถูกจะฝากให้ผมเขียนให้ก็ได้ หรือถ้ากลัวจะเสียหน้าฝากเรืองไกรร้องให้ก็ได้ ร้องให้ฟรีเลย” นายเรืองไกร กล่าว

นอกจากนี้นายเรืองไกร ยังกล่าวอีกว่า ถ้านายกฯโกรธ ตนก็ไม่สนใจ เพราะเป็นประโยชน์ของประเทศ เป็นเรื่องของความสง่างามว่าสรุปแล้วอยู่เป็นนายกฯต่อได้หรือไม่ได้