ทรัมป์อาการน่าห่วง?!? เสี่ยงเป็นสปรีดเดอร์เพราะดื้อ สั่งห้ามแผนกระตุ้นศก.ขณะปชช.รอคอยการช่วยเหลือ

2651

ทรัมป์อาการหนักหรือเป็นบ้าไปแล้ว ฝืนให้สัมภาษณ์ ไม่ยอมสวมหน้ากาก คาดว่ายังป่วยถึงวันดีเบตครั้งที่ 2 แน่ แพทย์สังเกตุอาการหายใจลำบาก กังวลภาวะลิ่มเลือดอุดตัน อาจต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีก ขณะเจ้าตัวสร้างความโกลาหลไปทั่ว สั่งห้ามเจรจาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจนกว่าหลังเลือกตั้งรู้ผล ทั้งนายธนาคาร นักลงทุน นางเปโลซีต่างเห็นตรงกันว่า เป็นการกระทำที่ไร้เหตุผลสิ้นดี ชาวอเมริกันยากลำบากทั้งเผชิญการระบาดระลอกใหม่ ผู้ป่วยเพิ่มไม่หยุด ภาวะ ถูกตัดน้ำตัดไฟ คนตกงาน ไร้บ้านรออยู่ เบื้องหน้าของสหรัฐอเมริกา มีวิกฤติใหญ่ยิ่งกว่าคลื่นยักษ์จะถาโถมใส่ ใครจะคลี่คลาย หรือจะต้องเป็นไปอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

ทรัมป์ยังคงป่วยโควิด-19ในการดีเบตครั้งที่ 2

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า มีความไม่แน่นอนว่าปธน.ทรัมป์จะหายจากอาการป่วยโควิด-19 ในช่วงเวลาที่จะต้องขึ้นดีเบตครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 ตุลาคมที่จะถึงนี้ และก็ไม่แน่วาเขาจะไม่เป็นคนแพร่เชื้อ

และประธานาธิบดีอายุ 74 ปี ยากที่หายได้เร็ว และจะฟืันไดัภายใน 1 สัปดาห์หลังป่วย ซึ่งจะสังเกตุอาการหายใจลำบาก ซึ่งเห็นได้ชัดในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เขามีอาการหายใจไม่สะดวก แต่ที่ยืนอยู่ได้น่าจะมาจากผลของเสตียรอยด์ที่ได้รับจากส่วนหนึ่งของการรักษา เป็นผลให้รู้สึกสบายใจและมั่นใจขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจาก ยูซีแพทย์ซานฟรานซิสโก ให้ความเห็นกับสื่อ

การดีเบตครั้งที่ 2 สุ่มเสียงแพร่เชื้อโควิด

วันที่ 15 ตุลาคมนี้ ทรัมป์จะขี้นโต้วาทีกับโจ ไบเดนที่ไมอามี และยากที่จะหายทัน ดังนั้นโอกาสที่ปธน.ทรัมป์จะเป็นผู้แพร่เชื้อมีสูง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือ CDC กล่าวว่าโดยทั่วไป ผู้ป่วยติดเชื้อจะแสดงอาการมากภายในช่วง 10 วันขี้นไปหลังติดเชื้อ แต่บางคนกินเวลา 20 วันจึงแสดงอาการว่าติดเชื้อ กรณีของปธน.ทรัมป์ก็เช่นกัน เพราะตรวจพบว่ามีอาการป่วยและตรวจพบติดเชื้อหลังดีเบตครั้งแรก

ดร.แชซ แลงเกเลีย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทางเภสัชการและผู้เชี่ยวชาญด้านการติดเชื้อตับกล่าวว่า “นั่นคือบางสิ่งเกิดขึ้นได้ ทั้งๆที่ไม่น่าจะเป็น”

ดร.จอร์จ รูเทอร์ฟอร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและชีวภาพกล่าวว่า โจ ไบเดนคงไม่ติดโควิด-19 จากปธน.ทรัมป์ เพราะหลังจาก 7 วันที่เขาดีเบตกับปธน.ทรัมป์ครั้งแรก เขาตรวจผลเป็นลบ

โพเดียมที่คู่แข่งขันดีเบตกันมีระยะห่าง 12 ฟุต และมองว่าทรัมป์อาจจะติดเชื้อภายหลังจากการดีเบตกับโจ ไบเดน

สมมติว่าปธน.ทรัมป์ติดโควิดจากงานแนะนะว่าที่ผู้พิพากษาศาลสูงนางเอมี โคเนย์ แบเรตต์ ในวันที่ 26 ก.ย.2563 ซึ่งมีคนมาร่วมงานที่ทำเนียบขาว สวนโรสการ์เด้นมาก ดร.รูเทอร์ฟอร์ดเสนอดูไทม์ไลน์การติดเชื้อของปธน.ทรัมป์ทรัมป์แสดงอาการไข้สูงในวันที่ 30 ก.ย.2563 หลังดีเบตกับไบเดน  และตรวจพบติดเชื้อวันที่ 1 ต.ค.2563 และบอกผ่านทวิตเตอร์ในค่ำวันที่ 1 ต.ค.ว่าตนเองและภรรยาเมลานี ทรัมป์ติดเชื้อโควิด

-วันที่ 3 หลังติดเชื้อไวรัส การตรวจเชื้อยืนยันผลเป็นบวก

-วันที่ 4 มีไวรัสมากในร่างกายและแสดงอาการมากขึ้น

-วันที่ 5 การแสดงอาการชัดเจน และมีเชื้อโรคในร่างกายจำนวนมาก

การแพร่กระจายเชื้อทำได้จากการ “พูดคุย”  

เช่นการพูดคุยโดยไม่สวมหน้ากากในงานแนะนำว่าที่ผู้พิพากษาศาลสูงสหรัฐ เป็นการรวมหมู่คนจำนวนมากสามารถเป็นซูเปอร์สปรีดดิ้งของไวรัสไดั ดร.รูเทอร์ฟอร์ดกล่าวว่า “ถ้าจะให้บอกว่า เกิดอะไรขึ้นที่นั่น ผมจะบอกว่า พูดกันจ๊อกแจ็ก(เม้าท์มอย)กันทั่ว”  “ยิ่งพูดมากเท่าไหร่- พูดใกล้ชิดเท่าไหร่- นั่นคือกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงติดเชื้อโรคเท่านั้น” สวมหน้ากากเท่านั้นจึงหยุดยั้งการกระจายเชื้อโรค การไม่สวมหน้ากากคือความผิดพลาดอย่างมหันต์

การติดโควิด-19 ของปธน.ทรัมป์พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะมีการตรวจทดสอบ แต่การไม่สวมหน้ากาก การไม่รักษาระยะห่างคือความผิดพลาด

แพทย์สังเกตุอาการหายใจลำบากของทรัมป์

เมื่อตอนปธน.ทรัมป์กลับมาประจำทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากรักษาตัวที่ศูนย์การแพทย์ทารวอลเตอร์รีด “เขาดูไม่ค่อยดีเลยในการทรงตัว และดูเหมือนจะหายใจลำบาก” ดร.ทัลแมดจ์ คิง ผู้เชี่ยวชาญ ยูซีวิทยาลัยยาแห่งซานฟรานซิสโกกล่าว “กำลังของเขามันไม่เป็นจริง น่าจะมาจากผลการไดรับสเตียรอยด์มากกว่า” “เป็นอาการที่ตับส่งออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายไม่สะดวก”

เป็นไปได้ว่าจะเกิดอาการทรุดกระทันหัน

ศูนย์ CDC เตือนผู้ป่วยหลังการบำบัดรักษา 1 สัปดาห์ต้องพักฟื้น ดร.ปีเตอร ชิน-ฮง ศาสตราจากทางยาและโรคติดเชื้อ ให้ข้อสังเกตุไว้ว่า “หลังการรักษา 7 วันผู้ป่วยจะต้องการรับออกซิเจนมากขึ้นและต้องกลับเข้าโรงพยาบาล” และอาการหายใจลำบาก อาจเป็นผลมาจากการับสารสเตียรอยด์ในการรักษา

ดร.ชิน-ฮงกล่าวว่า หลังรับสารสเตียรอยด์ผู้ป่วยจะรู้สึก “สดชื่น” “คุณจะรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนยอดเขา” ทั้งนี้ตัวยาจะให้ผลบางอย่าง “ตอนผมได้รับสารนั้น…ผมรู้สึกเล็กน้อยว่าผมคือผู้สร้างกฎของจักรวาล”

ถ้าปธน.ทรัมป์กลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งที่น่ากังวลคือ อาการ “ลิ่มเลือดอุดตันในปอด” (a pulmonary embolus) เพราะถ้าผู้ป่วยมีอาการขาดออกซิเจน หายใจลำบากอาจทำให้เกิ อาการลิ่มเลือดอุดตันในปอดได้ ต้องนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล ต้องเร่งลดความเสี่ยงของการเกิดเลือดอุดตัน

“ถ้าคุณติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว จะกินเวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ ที่จะต้องทนต่อความเจ็บป่วยนับเดือน มันไม่มีเวลาเดินเล่นในสวนหรอก” ดร.ชิน-ฮงกล่าว

ป่วนไปทั่ว-ทรัมป์สั่งหยุดเจรจาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทรัมป์ ทวิตว่าได้สั่งหยุดการเจรจาเรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างหารือกับแกนนำสภาผู้แทนราษฎร และจะกลับมาพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งทันทีที่ชนะการเลือกตั้ง โดยกล่าวว่า นางแนนซี เปโลซีประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค Democrat เรียกร้องเงินสนับสนุนจำนวน 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ แก่รัฐบาลท้องถิ่นฝั่งพรรค Democrat ที่บริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นตนจึงปฏิเสธข้อเรียกร้องสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์บางส่วนเห็นว่า ทางทรัมป์คิดว่ามีโอกาสที่อาจจะไม่ชนะการเลือกตั้ง จึงไม่จำเป็นต้อง “buy votes” ผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะหันไปแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกาคนใหม่ซึ่งเป็นสิ่งที่แน่นอนมากกว่า 

ทั้งนี้ นางเปโลซีได้ออกมาแสดงความเห็นว่าทางประธานาธิบดีเห็นแก่ตัวมากกว่าประเทศชาติและไม่สนใจคำเตือนของเฟดที่ว่า ช้าไปจะไม่ทันสถานการณ์