จากกรณีที่ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ได้ออกมาแถลงความคืบหน้า ในการดำเนินคดีกับม็อบ
ตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบัน มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 800 คดี ขณะนี้สอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 401 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 399 คดี
ทั้งนี้ในทวิตเตอร์ TLHR /ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยังได้อัพเดตด้วยว่า “สถานการณ์ #คดีทางการเมือง ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน มียอดผู้ถูกดำเนินคดีแล้วอย่างน้อย 1,684 คน ใน 957 คดี โดยเป็นเยาวชน 267 ราย คดี #ม.112 ถูกอัยการเร่งสั่งฟ้องสู่ชั้นศาลรวดเร็ว หมายเรียกคดี #พรก.ฉุกเฉิน จากการชุมนุมยังมีต่อเนื่อง ยอดรวมกว่า 1,337 คนแล้ว”
และล่าสุดนายสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดเสื้อแดง และการ์ดม็อบราษฎร ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ตอกย้ำเรื่องกลุ่ม 3 นิ้ว โดนคดี โดยระบุว่า “ตอนนี้ตำรวจไล่ออกหมายเรียก ผู้ชุมนุมย้อนหลัง ไม่เว้นหน้าแม้กระทั่งน้องที่มือขาด ตอนนี้ทุกคนถูกนำเข้าสู่ระบบหมายเรียก หมายจับ (กรณีไม่ไปตามหมายเรียกที่ส่งไปให้ที่บ้าน) แกนนำ ผู้ชุมนุม จนล่าสุด ท่อน้ำเลี้ยง ก็ไม่รอด เรียกได้ว่าตามเก็บสแปย์กันอย่างเมามันที่เดียว ขอให้ทุกคนโชคดี”
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มม็อบอื่น ๆ อย่างทะลุฟ้า ทะลุแก๊ส ก็โดนหมายเรียกด้วยเช่นกัน และบางกลุ่มก็กำลังถูกไต่สวนความผิดในการชุมนุม จนทำให้มีชาวโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ว่า ถึงเวลาที่ม็อบต้องรับกรรม รับผลการกระทำของตนเองแล้ว