เปลว สีเงิน แฉขบวนการอสัตย์หลอก “รุ้ง” ติดคุก-ตายแทน พบฐานบัญชาการอยู่ในมหาลัยสหรัฐฯ รวมหัวแก๊งอาจารย์ในไทย

1951

เปลว สีเงิน แฉขบวนการอสัตย์หลอก “รุ้ง” ติดคุก-ตายแทน พบฐานบัญชาการอยู่ในมหาลัยสหรัฐฯ รวมหัวแก๊งอาจารย์ในไทย

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (1 ธันวาคม 2564) หลังทนายความยื่นคำร้องขออนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล 2 คดี ได้แก่ คดีชุมนุม #แต่งครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ และคดีชุมนุม #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563 ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยทั้งสองคดีมีข้อหาหลักตามมาตรา 112

เวลาต่อมา ศาลทั้งสองมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวของทั้งสองคดีในวันนี้ ทำให้ปนัสยาจะได้รับการปล่อยตัวในค่ำวานนี้ มีคำสั่งให้ปล่อยตัวตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 64 – 12 ม.ค. 65 ตามเหตุจำเป็นที่ต้องไปสอบปลายภาค ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมกำหนดเงื่อนไข 5 ข้อ

ล่าสุดวันนี้ (2 ธันวาคม 2564) เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ได้เผยแพร่ บทความของ เปลว สีเงิน ในหัวข้อ ‘บ้านเกิดเมืองนอน’ เดียวกัน ซึ่งได้พูดถึง รุ้ง ปนัสยา ที่ได้รับการประกันตัวชั่วคราว โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจระบุว่า

ผมเชื่อใน “ธาตุดี” ของนักศึกษา….. ด้วย “ไฟบริสุทธิ์” ของคนรุ่นใหม่ ที่อยากให้สังคมบ้านเมืองเป็นอย่างใจฉับพลัน ก็หลงเพริดไปชั่วขณะ กับครูบาอาจารย์อสัตย์เมืองที่หลอกใช้ศิษย์ไปตายหรือไปติดคุกแทน กับแผน “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” ที่ขบวนการนอกชาติ ใช้มหา’ลัยในสหรัฐฯ แห่งหนึ่ง เป็นฐานบัญชาการ แล้วขบวนการจานมหา’ลัยในไทย ก็ประสาน รับแผนล่มชาติมาปฏิบัติการต่อ! ผลประโยชน์จากล่มชาติ-ล้มสถาบัน ที่เขาจ่าย “อสัตย์เมือง” ได้ไปเป็นกอบ-เป็นกำ เศษเดนเป็นของนักศึกษา อย่างดีก็แค่ชีสเค้กและคำป้อยอ เชิดเป็นวีรชนคนรุ่นใหม่บ้าง จะให้ไปศึกษาต่อบ้าง จะให้เป็น “อเมริกัน ซิติเซน” บ้าง

แต่ไม่ทันได้ไป ไม่ตายก่อนก็เสียอนาคตก่อน  คือต้องคดี ถึงขั้น ติดคุก-ติดตะราง ในขณะที่พวกจานหลอกใช้…. ทั้งไม่ช่วยและช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ยังเสพสุขกันสบาย ทิ้งเก่า หลอกคนใหม่มาเชิดใช้แทน ไม่ใช่เป็นแค่ยุคนี้-สมัยนี้ มันทุกยุค-ทุกสมัย นิสิต-นักศึกษา ส่วนหนึ่งไม่เข้าป่าก็เข้าคุก ร้อยจะมีซักหนึ่ง’จาน ที่เข้าป่าหรือเข้าคุกพร้อมกับนักศึกษา!

ผมดีใจกับเธอ ที่ศาลเมตตา เห็นแก่อนาคต อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “แบบจำกัด” ให้ไปสอบเป็นบัณฑิตธรรมศาสตร์โดยศาลท่านพิจารณาคำร้องแล้ว มีคำสั่งว่า….. การที่จำเลยที่ ๕ (รุ้ง-ปนัสยา) มีภาระในเรื่องการเรียนที่จะต้องเสียหายจากการคุมขัง จึงเป็นเหตุที่สามารถได้รับการพิจารณา เมื่อคำนึงถึงความเสียหายที่จำเลยที่ ๕ อาจก่อขึ้นอีกนั้น อาจจำกัด หรือควบคุมได้ โดยการที่จำเลยที่ ๕ ยินยอม และตั้งใจปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ของศาลที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและด้วยการกำหนดเงื่อนไขเงื่อนเวลาและมาตรการกำกับดูแลที่เหมาะสม ที่ประชุมผู้บริหารศาลอาญาพิจารณาแล้ว จึงเห็นควรอนุญาตให้ ปล่อยชั่วคราว จำเลยที่ ๕ อย่างจำกัด โดยให้มีผล เฉพาะตั้งแต่วันนี้ (๓๐ พ.ย.) จนถึงวันที่ ๑๒ ม.ค.๖๕

ถึงแม้เงื่อนไขอนุญาตประกันดูจะเข้มงวด แต่ถึงอย่างไร รุ้งซึ่งอยู่ในคุกมาแล้ว ย่อมเกิดประสบการณ์ทางเปรียบเทียบได้ว่า เข้มงวดขนาดไหน การได้หายใจนอกคุก มีค่าน่าถวิลหาและทะนุถนอม มากกว่าการเข้าไปหายใจอยู่ในคุกเป็นร้อยเท่า-พันทวี เป็นผม จะใช้ช่วงเวลา ๑ เดือนกับ ๑๒ วัน อย่างมีสติ นอกจากการสอบแล้ว ที่สำคัญ จะทบทวนบทบาทชีวิตตัวเองที่ผ่านมา

มันใช่หรือไม่ใช่ มันผิดหรือมันถูก? อยากบอกรุ้งว่า “ยังไม่สายเกินไปที่จะสร้างสำนึกดีให้กับตัวเอง” รุ้งจะเป็นบัณฑิตแล้ว บัณฑิต คือผู้มีปัญญา ผู้มีความรู้ ผู้เป็นนักปราชญ์ ถ้ารุ้งยังคิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม การได้ออกมาสอบเป็นบัณฑิต ก็ไร้ค่า บัณฑิตในแผ่นกระดาษ ทุกวันนี้ มันเกลื่อนล้นออกมาจากมหา’ลัย ระกะ-ระกาตามถนน ไปหมกเป็นขยะรกเมือง รุ้งต้องไม่เป็น “บัณฑิตขยะ” นะ

เธอต้องไม่เป็นผลไม้พิษ แม้จะผลิดอก-ออกผลมาจากต้นพิษ ม.ธรรมศาสตร์ ยุคนี้ก็เถอะ! ไม่เพียงรุ้ง นิสิต-นักศึกษา ที่ถูกเขาหลอกใช้เป็นเครื่องมือล้มเจ้าทุกคน วันนี้ ยังไม่สายที่จะใช้สติของว่าที่บัณฑิตทบทวน ก็ดูซิ…ปี-สองปี ที่ยำเยิงเมืองเรื่องล่มชาติ-ล้มสถาบันมา มีจาน’มหาลัยซักคนมั้ย ร่วมเป็น-ร่วมตายในถนน? และมีซักคนมั้ย ถูกหมาย-ถูกคดี?

ปิยบุตร เป็นไง ก็เห็นลอยชาย “หน้านวล” ละเลียดไวน์ บินไปเยี่ยมภรรเมียเพลียสุข ออกสูตร “ปฏิรูปแบบปฏิวัติ” ให้ลูกศิษย์ปฏิบัติ  แต่ตัวเอง..เปล่า ลูกศิษย์ขัดเบาอยู่ในคุก ตัวเองเป็นจรวดพุ่งจู๊ดอยู่นอกคุก….สบาย!

เพนกวินล่ะ นิราศร้างห่างแก๊งไปแอ้งแม้งอยู่ในคุกเป็นร้อยวัน มีซักกี่’จานไปเกาะลูกกรงโรยแป้งซับผดที่ง่ามขาให้? และ’จานปิยบุตรที่เคยตามไปกระซิบ “ติวเข้ม” ถึงซอกรูหูกลางม็อบขณะรุ่ง แล้วขณะริ่งอยู่ในคุกตอนนี้ จานยังเป็นแมลงหวี่ไปตอมหูเหมือนเดิมมั้ย? “วีรบุรุษ-วีรสตรี” ที่พวกจานเป่าตูดน่ะ…มีเกลื่อนไป แต่มักอยู่ในสภาพ ไม่ตาย ก็พิการ, ไม่พิการ ก็ป่วย, ไม่ป่วย ก็วิกลจริต ไม่วิกลจริต ก็เป็นไพร่-เป็นทาส ประเภท “เต่าถุย” ตกกลางคืนต้องไปคอยหอนประจบสัมภเวสีตามคลับเฮาส์!

อ่านบทความฉบับเต็ม : https://www.thaipost.net/columnist-people/36791/