หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก กองทุนราษฎร์ประสงค์ ได้อัพเดทยอดเงินที่มวลชน 3 นิ้วบริจาคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยยอดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 64 กองทุนราษฎรประสงค์ได้เบิกเงินจำนวนทั้งสิ้น 80,000 บาท เพื่อนำไปใช้วางประกัน 2 คดี ตามที่ได้รับการประสานงานจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และภายหลังการเบิกจ่ายข้างต้น ยอดเงินคงเหลือในบัญชีคือ 1,894,642.14 บาท
ต่อมาในเพจเฟซบุ๊กอานนท์ นำภา ได้โพสต์เอกสารค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 14-19 พ.ย.2564 จำนวน 48,516 บาท เพื่อช่วยเหลือแกนนำ และแนวร่วมม็อบราษฏร ระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ อาทิ ซื้อของให้เพนกวิน (1 อาทิตย์) จำนวน 4,975 บาท ซื้อของให้เบนจา (1 อาทิตย์) 6,513 บาท ซื้อของให้ไพฑูรย์ สุขสันต์ จักรี ขจรศักดิ์ ภาณุเดช 982 บาท ซื้อของให้อานนท์ แซม ธีรเมธ 476 บาท ซื้อของให้จิตรกร พิชัย นฤเบศ ยุรนันท์ ณรงค์ศักดิ์ อนันต์ 2,590 บาท
โดยเมื่อวันที่ 20 พ.ย.64 มีการระบุรายการซื้อของให้จิตรกร พิชัย นฤเบศ ยุรนันท์ ณรงค์ศักดิ์ อนันต์ อีก 3,342 บาท ซื้อของให้ไผ่ 714 บาท และซื้อของให้คเชนทร์ 727 บาท ทั้งนี้เฟซบุ๊กอานนท์ นำภา ยังโพสต์ข้อความอีกด้วย ระบุว่า 7 วันที่ผ่านมา คิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากมายนัก แต่ปรากฎว่าอานนท์ ถูกอัยการสั่งฟ้องในคดี ม.112 อีก 3 คดี (ปราศรัยหน้ารัฐสภา 17 พ.ย. , ปราศรัยหน้า scb 25 พ.ย. , ปราศรัย 5 แยกลาดพร้าว 2 ธ.ค. 63 ทำให้ปัจุบันเขาถูกขังจาก 7 หมายขังในคดี ม.112 และอีก 1 คดีในศาลแขวง (ยังไม่แน่ใจว่าคดีอะไร) รวมเป็น 8 คดี หากจะต้องใช้เงินประกันตัวอานนท์เพียงคนเดียว คงจะต้องใช้เงินเกือบ 2 ล้านบาท! หากดูตามสถิติการประกันตัวในคดีม.112 ที่ใช้คนละ 2-3 แสนบาท (ยังไม่เปิดระดมตอนนี้ หากเปิดเมื่อไหร่จะบอกแน่นอน)
อานนท์ถูกขังเป็นวันที่ 103 ยังสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้คิดโควิดตามที่มีคนพูดกันแต่อย่างใด ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีท่ามกลางโควิดที่ระบาดอย่างหนักในที่คับแคบ เมื่อวานเพนกวินได้ย้ายมาอยู่แดนเดียวกับ อานนท์ ไมค์และไผ่แล้ว พวกเขาได้เจอกันในการคอนเฟอเรนซ์เพื่อฟังคำสั่งฟ้อง ทุกคนยังมีสีหน้าที่ดีแม้ว่าจะอยู่ในที่ที่ไม่สมควรต้องเข้าไปอยู่
ในวันจันทร์ที่จะถึง 22 พ.ย. 2564 ไมค์ ไผ่ เพนกวิน จะต้องถูกไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล ที่ศาลธัญญบุรี จากเหตุการณ์ที่พวกเขาไลฟ์สดตอนถูกควบคุมตัวและรอประกันตัวช่วงวันที่ 9 ส.ค. ซึ่งในวันนั้นพวกเขาไม่ได้ประกันตัว และยังมีอีกหลายคนในคดีนี้ที่ถูกกล่าวหาเช่นเดียวกัน ไม่ทราบว่าผลการไต่สวนจะออกมาเป็นเช่นไร ทุกคนคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
ปัจจุบันเรือนจำกำลังปรับปรุงสถานที่เพื่อให้ญาติเยี่ยมได้ แต่ในกรณีของผู้ต้องขังทางการเมืองที่ออกมาขึ้นศาล ดูเหมือนยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะอยู่ในแดนที่ให้ญาติเยี่ยมได้ ผู้ที่จะเข้าเยี่ยมต้องเป็น 1 ใน 10 รายชื่อที่พวกเขาระบุและต้องเป็นคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น ทนายความซึ่งปกติจะเข้าเยี่ยมเมื่อไหร่ก็ได้ ก็ต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน
การสนับสนุนของทุกท่าน ทำให้เรายังมีเงินช่วยเหลือผู้ต้องขังทางการเมืองไปจนถึงสิ้นปีอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการเอาพวกเขาออกจากเรือนจำ ในเดือนธ.ค. ทางเฟซบุ๊กอานนท์อาจจะมีแคมเปญเกี่ยวกับการประกันตัวอานนท์ โดยเราจะยื่นประกันตัวอานนท์ทุกวันและอาจรับสมัครคนมาช่วยรอฟังผลประกัน สำหรับคนที่มีเวลาและอยากร่วมแคมเปญ เนื่องจากการยื่นประกันในคดีการเมืองแม้จะยื่นตั้งแต่เช้าก็แทบจะต้องใช้เวลารอฟังผลทั้งวันอยู่ที่ศาล
