ที่สหรัฐอเมริกา กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไปแล้ว คืนสยองขวัญของคนอเมริกันไม่ใช่เพิ่งเกิดครั้งแรก แต่ครั้งนี้สาหัสเพราะแก๊งปล้นร้านของชำยกระดับ พาพวก 80 คนปล้นห้างหรูและหลายจุดในซานฟรานซิสโก ยิ่งกว่าในภาพยนต์ระทึกขวัญ ซานฟรานซิสโกกำลังเผชิญกับอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ หลังจากกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19ระลอกใหม่ มีเหตุชิงทรัพย์และลักขโมยเพิ่มขึ้นจากหนึ่งปีก่อนหน้านี้เกือบ 88% และอาชญากรรมโดยรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 52% นักเคลื่อนไหวชี้ว่า เพราะกฎหมายเปิดช่อง
#Breaking About 25 cars just blocked the street and rushed into the Walnut Creek Nordstrom making off with goods before getting in cars snd speeding away. At least two people arrested at gunpoint. pic.twitter.com/AG3R94M9L3
— Jodi Hernandez (@JodiHernandezTV) November 21, 2021
วันที่ 22 พ.ย.2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อคืนวันเสาร์ 20พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุแก๊งขโมยของหลายสิบคนยกพวกปล้นสะดมห้างสรรพสินค้านอร์ดสตรอม สาขาหนึ่งใกล้ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ตำรวจเรียกว่าเป็นเหตุการณ์ “ทุบกระจกแล้วกวาดข้าวของวิ่งหนี” ผู้ต้องสงสัย 3 คนถูกจับในภายหลัง
ร้อยตำรวจโท ไรอัน ฮิบบ์ส จากกรมตำรวจวอลนัตครีก เปิดเผยกับสื่อว่ามีผู้ต้องสงสัยราว 80 คนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมซึ่งเกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้านอร์ดสตรอม ในบรอดเวย์พลาซ่า ในเมืองวอลนัตครีก ทางตะวันออกของซานฟรานซิสโก และพวกคนร้ายใช้ยานพาหนะอย่างน้อย10 คันในการหลบหนี
“ในรถจำนวนหนึ่งกำลังขับหนี เราสามารถสกัดพวกเขาได้คันหนึ่ง” ฮิบบ์สกล่าว และบอกว่าไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมเผยเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำคนที่ถูกจับกุมตัวซึ่งเป็นวัยรุ่น เพื่อระบุตัวตนผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ
ผู้จัดการร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงเปิดเผยกับสำนักข่าวท้องถิ่น ว่าพวกคนร้ายสวมหน้ากากและถืออุปกรณ์บางอย่างซึ่งน่าจะเป็นชะแลง “มันคือกลุ่มม็อบ ตำรวจพุ่งเข้ามา มันราวกับฉากในภาพยนตร์ มันบ้ามากๆ มันเป็นฉากที่น่ากลัวมากในช่วงเวลาหนึ่ง” ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ได้ประมาณการมูลค่าความเสียหายในสินค้าต่างๆนานาที่ถูกขโมยไป
Meanwhile, in San Francisco… pic.twitter.com/b4bYbhpMxl
— Daily Caller (@DailyCaller) November 12, 2021
ร้านค้าจำนวนมาก รวมทั้งหลุยส์วิตอง (Louis Vuitton) และบลูมมิ่งเดลส์ (Bloomingdale’s) ถูกโจมตีในคืนวันศุกร์วันเดียวกัน อันเป็นส่วนหนึ่งของการปล้นสะดมครั้งใหญ่ที่โจมตีธุรกิจต่างๆ ในยูเนียนสแคว์ (Union Square) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
นอกจากนี้หลังเหตุการณ์ตำรวจเปิดเผยว่าจับกุมผู้ต้องสงสัยอีก 8 คนล้วนเป็นวัยรุ่น ยังสามารถยึดยานพาหนะได้ 2 คันและอาวุธปืน 2 กระบอก
ซานฟรานซิโกไม่ใช่เมืองเดียวของสหรัฐฯที่ต้องเผชิญกับแก๊งอาชญากรรมฉวยแล้วหนี เมื่อช่วงบ่ายวันพุธ(17พ.ย.) มีรายงานคนร้ายหลายคนบุกเข้าไปในร้านหลุยส์ วิตตอง ในห้างสรรพสินค้าแห่งนึ่งในโอ๊คบรูค รัฐอิลลินอยส์ ฉวยสินค้าไปมูลค่ากว่า 120,000 ดอลลาร์(ราว 3.9 ล้านบาท) ตามรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่น
This is how we address income inequality in San Francisco, by encouraging crimes and reducing life quality for everyone.
This is a Tesla footage of a smash and grabs on the entire block of Japantown on Tuesday evening. There was nothing in the car and it was smashed anyway. pic.twitter.com/CathVZE1qf
— Jenny, Girl from 4th 🌍, 鄰白廢物 🦍 (@JennyChachan) November 18, 2021
จากการเปิดเผยของกรมตำรวจโอ๊คบรูค พบเห็นผู้ต้องสงสัย 14 คนกำลังหยิบฉวยสินค้าไปจากชั้นวาง เจมส์ ครูเกอร์ ผู้บัญชาการตำรวจโอ๊คบรูคกล่าวว่า ในภาพจากกล้องวงจรปิดที่เปิด “พอพวกเขาเข้ามา พวกเขาดึงถุงขยะออกมาจากชุดและเริ่มเอาสินค้าใส่เข้าไปในถุงจนเต็ม” จากนั้นผู้ต้องสงสัยใช้ยานพาหนะ 3 คันหลบหนี แต่ไม่นานตำรวจพบรถต้องสงสัยจอดทิ้งไว้ข้างทาง 1 คัน
สำหรับเมืองซานฟรานซิสโกเกิดกระแสเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านกฎหมายและ การทำงานของตำรวจหลังคืนการปล้น ‘สยดสยอง’ ทั้งนายกเทศมนตรีและกรมตำรวจเห็นด้วยและรับปากจะต้องผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ในการแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ลอนดอน บรีด นายกเทศมนตรี(London Breed) ได้ให้คำมั่นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ ในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเป็นมาตรการป้องกันการโจรกรรมจำนวนมากในอนาคต
การปล้นสะดมบางส่วนถูกจับภาพโดยกล้องวงจรปิด โดยมีตำรวจไม่กี่คนในพื้นที่ และโจรหลายคนสามารถเดินผ่านตำรวจโดยไม่มีการต่อต้าน
การโจรกรรมได้กลายเป็นเทรนด์ในซานฟรานซิสโก ส่งผลให้บริษัทอย่างวอลล์กรีนส์(Walgreens ) ปิดสถานที่หลายแห่งและร้านค้าปลีกอื่นๆต้องจำกัดเวลาทำการ
นักเคลื่อนไหวระบุว่า กฎหมายของเมืองที่การขโมยของที่มีมูลค่าน้อยกว่า 950 ดอลลาร์ ไม่ใช่ความผิดทางอาญา เป็นปัจจัยสำคัญในการขโมยที่เพิ่มขึ้นและส่งผลกระทบต่อธุรกิจ และการทำงานของตำรวจ เพราะไม่มีใครสนใจขัดขวางในระหว่างเกิดเหตุเนื่องจากอาจทั้งผิดกฎหมายถูกฟ้องกลับ หรืออาจถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต เรื่องนี้เป็นประเด็นถกเถียงกันระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครตในพื้นที่มากว่าปียังไม่มีข้อสรุป