จากที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีชุมนุมเมื่อปี 2563 สองคดี ซึ่งมีข้อหาหลักตาม มาตรา 112 ต่อศาลอาญานั้น
ทั้งนี้โดยมีสองคดีคือ ม็อบ 25 พฤศจิกาไป SCB หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2564 โดยคดีนี้มีผู้ต้องหา 8 คน ด้านคดีที่ 2 คือ คดีการชุมนุม 2 ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว เมื่อ 2 ธันวาคม 2563 โดยมีผู้ต้องหา 7 คน
สำหรับนักกิจกรรมทางการเมืองที่มารับฟังคำสั่งฟ้องได้แก่ “ฟ้า” พรหมศร วีระธรรมจารี , “ไบรท์” ชินวัตร จันทร์กระจ่าง, “ตี้” วรรณวลี ธรรมสัตยา , “บอย” พงศธรณ์ ตันเจริญ, “แอมป์” ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา , “คริษฐ์” (สงวนนามสกุล) , “ฮิวโก้” จิรฐิตา (สงวนนามสกุล)
ล่าสุด ที่ศาลอาญา ภายหลังทนายความยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว สำหรับคดีหมายเลขดำอ.2887/2664 หน้า SCB ศาลพิเคราะห์แล้ว ไม่อนุญาตให้ประกัน นายอานนท์ จำเลยที่ 1 นายพริษฐ์ จำเลยที่ 2 นายภานุพงศ์ จำเลยที่ 4 และน.ส.ปนัสยา จำเลยที่ 5 เห็นว่าร้ายแรงประกอบกับจำเลย ถูกดำเนินคดีที่ศาลนี้หลายคดี หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เชื่อว่าจะก่ออันตรายประการอื่น หรือ หลบหนีคดี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง
ส่วนนายชินวัตร จำเลยที่ 3 พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ระหว่างพิจารณา ตีราคาประกัน 2 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามมิให้จำเลยที่ 3 กระทำการในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหาซ้ำอีก หรือไปร่วมกิจกรรมที่อาจเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ห้ามจำเลยที่ 3 เดินทางออกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด และก่อนปล่อยตัวให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ
ขณะที่ น.ส.จิรฐิตา จำเลยที่ 6 นายคริษฐ์ จำเลยที่ 7 นั้น ศาลพิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ระหว่างพิจารณา ตีราคาประกัน 1 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามมิให้กระทำการในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหาซ้ำอีก หรือไปร่วมกิจกรรมที่อาจเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ห้ามเดินทางออกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลและให้มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด และก่อนปล่อยตัวให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ
สำหรับคดีหมายเลขดำอ.2888/2664 เเยกลาดพร้าว ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์และความหนักเบาแห่งคดีในส่วนของ นายอานนท์ จำเลยที่ 1, นายภานุพงศ์ จำเลยที่ 3 แล้ว เห็นว่าร้ายแรงประกอบกับจำเลยที่ 1,3 ถูกดำเนินคดีที่ศาลนี้หลายคดี หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เชื่อว่าจะก่ออันตรายประการอื่น หรือ หลบหนีคดี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง
ส่วน นายชินวัตร จำเลยที่ 2 พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณา ตีราคาประกัน 2 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามมิให้จำเลยที่ 2 กระทำการในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหาซ้ำอีก หรือไปร่วมกิจกรรมที่อาจเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ห้ามจำเลยที่ 2 เดินทางออกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลและให้มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด และก่อนปล่อยตัวให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ
ขณะที่ น.ส.วรรณวลี จำเลยที่ 4 พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จำเลยที่ 4 ระหว่างพิจารณา ตีราคาประกัน 1 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามมิให้จำเลยที่ 4 กระทำการในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหาซ้ำอีก หรือไปร่วมกิจกรรมที่อาจเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ห้ามจำเลยที่ 4 เดินทางออกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด และก่อนปล่อยตัวให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ เช่นเดียวกับ นายพงศธรณ์ จำเลยที่ 5 , นายพรหมศร จำเลยที่ 6 และ นายณวรรษ จำเลยที่ 7