จากที่รัฐสภา มีมติ 473 ต่อ 206 เสียงมีมติไม่เห็นชอบรับหลักการ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม พริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำกลุ่มรีโซลูชั่น และประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 135,247 คน เป็นผู้เสนอนั้น
ต่อมานายพริษฐ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ขอบคุณและขอโทษกับประชาชนที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมกับชี้แจงเหตุผลของการเสนอร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวว่า เป็นความต้องการสร้างระบบการเมืองที่ “ควร” จะเป็น โดยข้อความบางช่วงระบุว่า
“ผมขอใช้พื้นที่นี้ ขอบคุณและขอโทษจากใจจริงอีกครั้ง ต่อประชาชน 135,247 คน ที่ร่วมเดินทางกับเราในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รื้อระบอบประยุทธ์ และหลายคนที่ติดตามการอภิปรายและคาดหวังอยากให้ร่างฉบับนี้ผ่าน การแก้รัฐธรรมนูญยังต้องเดินหน้าต่อไป และผมเชื่อว่าตราบใดที่รัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งมีปัญหาทั้งที่มา กระบวนการ และเนื้อหา ยังไม่ได้รับการแก้ไขในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการสืบทอดอำนาจและกติกาที่ไม่เป็นธรรม ประเทศไทยก็จะไม่สามารถออกจากวิกฤติทางการเมืองในรอบนี้ได้”
ด้าน แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก หลังสมาชิกรัฐสภาลงมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เสนอโดยกลุ่ม Resolution นำโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ , นายปิยบุตร แสงกนกกุลว่า
สภามีมติไม่รับหลักการ ข้อเสนอการแก้รัฐธรรมนูญที่เสนอโดยกลุ่ม Resolution ไปแล้ว สิ่งที่สะท้อนจากการนำเสนอโดยบุคคลที่เกี่ยวข้องครั้งนี้น่าสนใจ
1.ผู้เสนอร่าง ใช้เวลาและจบการศึกษาจากต่างประเทศ ยังไม่มีประสบการณ์ในไทย ไม่มีโอกาสศึกษาประวัติศาสตร์ของไทยให้รอบด้าน จึงอาจมีแนวคิดพื้นฐานมาจากสังคมตะวันตก
2.การแสดงออกถึงการด้อยค่าผู้อื่นแบบเหมารวมที่เป็นเหมือนคนรุ่นใหม่ มองผู้เห็นต่างว่าโง่ (แม้จะใช้คำอื่น) ไม่มีคุณค่าใดๆ เทียบกับตัวเขาและกลุ่มเขา
3.คนที่ถูกเรียกว่าอาจารย์ ใส่ความคิด ใส่อารมณ์ ใส่ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ใช่คุณสมบัติของครูที่ดี ใช้เวลาบ่มเพาะมานาน
4.ผู้เห็นต่างถูกดูถูกดูแคลน ทั้งที่เป็นบุคคลที่ได้มีผลงานทำประโยชน์ต่อส่วนรวม แบบที่เรียกว่าถูกถอนหงอก
5.สิ่งที่ซ่อนไว้คือความจงเกลียดจงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ คงด้วยเพราะมองว่าทรงมีส่วนสนับสนุนผู้ปฏิวัติ ทั้งที่ถ้าได้ศึกษาประวัติศาสตร์ก็จะได้เห็นคุณูปการมากมายต่อแผ่นดินไทย ที่สำคัญผู้เสนอเองไม่เคยสร้างสิ่งดีๆไว้ในแผ่นดินเลย มีแต่เสี้ยมให้จงเกลียดจงชังอดีต
ประเด็นคร่าวๆเช่นนี้สะท้อนให้เห็นสังคมยุคหน้าที่จะเต็มไปด้วยการใช้อารมณ์ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ใช้ความรู้ที่ไม่รอบด้าน และเชื่อตามที่ตัวเข้าใจ ไม่รับฟัง ที่สำคัญไม่สนใจว่าสังคมที่เราอยู่จะแหลกราน มันมาถึงจุดนี้ได้ไงหนอ ความจริงเสียงที่เขาสรรเสริญว่าเป็นเสียงประชาชนที่สนับสนุนมีได้เศษเสี้ยวของผู้รักแผ่นดิน ถึงเวลาเขาก็จะรู้เอง อย่าเชื่อมั่นตัวเอง อย่าดูถูกดูแคลนผู้อื่น ความเงียบมีพลังซ่อนอยู่มากมาย