อดีตกุนซือบิ๊กป้อม เปิดภาพผู้ชุมนุม8กลุ่มได้แค่นี้! อดีตพุทธะอิสระแจ้งจับ2ข้อหาหนัก

1913

จากที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ชวนร่วมชุมนุม 14 พฤศจิกายน โดยตั้งชื่อกลุ่มใหม่ จากการรวมตัวกันทั้งสิ้น 8 กลุ่ม มาจากการที่ ไม่พอใจคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ชี้ว่า การปราศรัย 10 ข้อเรียกร้อง เข้าข่ายล้มล้างการปกครองนั้น

ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุม ได้นัดรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเวลา 15.00 น. ก่อนเคลื่อนตัวไปยังสนามหลวง ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 เพจ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม – United Front of Thammasat and Demonstration”  ได้โพสต์ข้อความเปลี่ยนแผน โดยระบุว่า

“ตำรวจปิดทุกทางเข้าออกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทุกทาง เจอกัน แยกปทุมวัน ! เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดเส้นทางเข้าออก อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทุกเส้นทาง และมีเจตนาที่จะใช้ความรุนแรง รวมถึงพกอาวุธจริงเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม”

ก่อนที่เวลา 16.40 น. ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันที่แยกปทุมวัน และประกาศเดินขบวนไปยังสถานทูเยอรมันนี โดยมีการอ่านแถลงการณ์และยื่นหนังสือต่อทูตเยอรมัน เกี่ยวกับปัญหาในประเทศไทย

ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความของการรวมตัว 8 กลุ่มเพื่อร่วมกันชุมนุมว่า

ได้แค่นี้จริงๆ นัดชุมนุมใหญ่ 8 ม็อบวันนี้ ไม่มีหัวโจกไปเลยแม้แต่คนเดียว ไม่มีอาเจียนอีแอบไปร่วมด้วยแม้แต่คนเดียว ก็เหมือนเดิมนั่นแหละหลอกลูกหลานชาวบ้านไปติดคุกตามเคย

ประชาชนไทยอีก 70 ล้านคนคงได้แต่ห่วงใยลูกหลาน อยากให้พ่อแม่ญาติพี่น้องช่วยกันเอากลับสู่อ้อมอกอันอบอุ่นของครอบครัวดีกว่า”

ล่าสุดวันนี้ 15 พฤศจิกายน 2564 เฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ได้โพสต์ข้อความของอดีตพระพุทธะอิสระ หรือ หลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย โดยระบุถึงกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ว่า

กบฏรุ้ง ดื้อแพ่งต่อคำสั่งศาล ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ประกาศนัดชุมนุม กล่าวหาศาลว่า “กำลังทำให้การปกครองกลับไปยังระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์” (ด้วยข้อความนี้ก็ติดคุกได้แล้ว)

๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ประกาศนัดชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วเดินไปรวมพลทำกิจกรรมประกาศข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบัน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า ท้องสนามหลวงเป็นเขตพระราชฐาน แต่ก็โผล่ไปที่สถานทูตเยอรมัน

ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญท่านก็ได้เตือนให้หยุดพฤติกรรมจาบจ้วง กัดกร่อน บ่อนทำลายสถาบัน แต่กลุ่มกบฏก็ยังไม่รู้สีสา ยังกระทำการจาบจ้วง ล่วงละเมิด ต่อสถาบันเหมือนเดิม

อีกทั้งยังกล่าวหาว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย และตนกับพวกจะไม่ยอมรับและไม่ปฏิบัติตาม (แค่นี้ก็เจอข้อหาดูหมิ่นศาลได้แล้ว)

ด้วยหลักฐานดังกล่าวนี้ ก็สามารถเอาตัวรุ้ง และพวกไปนอนคุกยาวได้ แต่ต้องขอตั้งข้อสังเกตว่า การชุมนุมครั้งนี้หนูรุ้งหายไปไหน

จึงขอเรียกร้องลูกไทย ผู้มีหัวใจรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกคนอยู่ใกล้โรงพักไหน ให้ไปแจ้งความจับกบฏ ในโรงพักนั้น แจ้งไปให้ทั้งประเทศในสองข้อหาคือ กบฏ และดูหมิ่นศาล เดี๋ยวจะให้ทนายรวบรวมข้อมูลแล้วเขียนคำร้องทุกข์กล่าวโทษ พวกกบฏ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบไป