จีนเตือนสหรัฐฯ??ไบเดน-สีประชุมนัดพิเศษ เมกาต้องหยุดเสี้ยมไต้หวัน เรื่องอื่นพบกันครึ่งทาง

1127

การประชุมสุดยอดเสมือนจริงระหว่างปธน.สี จิ้นผิงและปธน.โจ ไบเดนวันพรุ่งนี้ ดูเหมือนว่าไม่น่าจะมีความเปลี่ยนแปลงในทางบวกจริง เพราะท่าทีสหรัฐและพันธมิตรยังไม่เลิกราหนุนไต้หวันแยกประเทศ  แม้ว่าก่อนหน้าการกระชุมหวัง ยี่ รมว.ต่างประเทศจีนยกหูคุยกับ บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯก่อนการประชุมเตือนเข้มว่าสหรัฐฯต้องไม่สนับสนุน ‘อิสรภาพของไต้หวัน’ การพูดคุยเรื่องอื่นจึงมีความหมาย ส่งสัญญาณท่าทียืนหยัดในจุดยืนเรื่องการรวมชาติ คุยกันจบไม่ทันไร บลิงเคนก็ให้สัมภาษณ์ว่าสหรัฐจะยืนหยัดสนับสนุนไต้หวันต่อไป

วันที่ 14 พ.ย.2564 สำนักข่าวโกลบัลไทมส์รายงานว่า หวัง ยี่มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ได้พูดคุยกับนายแอนโทนี บลิงเคิน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ทางโทรศัพท์ ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายเตรียมการประชุมเสมือนจริงของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 16 พฤศจิกายน ตามเวลาปักกิ่ง หวางเน้นย้ำถึงความสำคัญของ “การพบกันครึ่งทาง” และเตือนสหรัฐฯ ว่าอย่าสนับสนุน “เอกราชของไต้หวัน”

หวังกล่าวว่าการประชุม สี-ไบเดน ที่คาดหวังกันอย่างแพร่หลาย ว่าจะลดความตึงเครียด ไม่เพียงแต่เป็นเหตุการณ์สำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ประชาชนของทั้งสองประเทศและประชาคมระหว่างประเทศหวังว่าการประชุมจะให้ผลที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและโลกในวงกว้าง หวังกล่าวว่าประมุขแห่งรัฐทั้งสองมีบทบาทสำคัญในการควบคุมความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่จะส่งผลกระทบต่อโลกโดยส่วนรวม

หวังกล่าวว่า “ทั้งสองฝ่ายควรพบกันครึ่งทาง เพื่อให้แน่ใจว่าการประชุมจะราบรื่นและประสบความสำเร็จ เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กลับมาเป็นเหมือนเดิม และมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาที่มั่นคง” 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หัว ชุนหยิง (Hua Chunying) เปิดเผยว่า ปธน.สี จิ้นผิง จะพบกับปธน.โจ ไบเดน ผ่านลิงก์วิดีโอในเช้าวันที่ 16 พฤศจิกายน ตามเวลาปักกิ่ง ทุกฝ่ายมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับการปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองประเทศ

หลู่ เซียง(Lü Xiang) นักวิจัยจากสถาบันสังคมศาสตร์แห่งประเทศจีน (Chinese Academy of Social Sciences) กล่าวว่า “บลิงเคนกล่าวว่าการประชุมทางวิดีโอระหว่างผู้นำทั้งสองจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั่วโลก และทั้งสองฝ่ายได้เตรียมการอย่างเต็มที่สำหรับการประชุมดังกล่าว และมีความก้าวหน้าในเชิงบวก สหรัฐฯ ตั้งตารอที่จะแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับจีนบนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน และร่วมกันส่งสัญญาณที่เข้มแข็งไปทั่วโลก 

เป็นความคาดหวังในเชิงบวกที่สวนกับความเป็นจริงมาก เพราะบลิงเคนได้ให้สัมภาษณ์สื่อตะวันตกอย่างกว้างขวางว่า สหรัฐยังคงพร้อมสนับสนุนไต้หวันต่อไป ด้านออสเตรเลียก็ออกมาแถลงแบบเดียวกันตามมาติดๆ

การประชุมครั้งนี้ จะเป็นตัวชี้วัดลักษณะของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ฝ่ายจีนจะย้ำว่ากลยุทธ์โดยรวมสำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคี ที่มีความสอดคล้องกันมานานหลายทศวรรษ การเจรจาดังกล่าวคาดว่าจะส่งสัญญาณเชิงบวกสำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีและทั่วโลก แต่การสนทนา ทางโทรศัพท์ระหว่าง หวังและ บลิงเคน เป็นบทนำก่อนการประชุมของผู้นำ การสรุปหลักการ และผลลัพธ์ที่คาดหวังของการพูดคุยที่จะเกิดขึ้น 

หวังพูดตรงๆกับบลิงเคน แสดงความคัดค้านของจีนต่อคำพูดและการกระทำที่ไม่ถูกต้องของสหรัฐฯ ที่มีต่อไต้หวัน โดยตอกย้ำจุดยืนอันแน่แน่ของจีนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตยของชาติกรณีนี้

หวางกล่าวว่าประวัติศาสตร์และความเป็นจริงได้พิสูจน์อย่างเต็มที่แล้วว่า “การแบ่งแยกเป็นอิสระของไต้หวัน” เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน การรู้เห็นและสนับสนุนกองกำลังแบ่งแยกดินแดนถือเป็นการละเมิดสันติภาพในช่องแคบและในที่สุดก็จะรับผลที่ตามมาจากการกระทำของตัวเอง หากสหรัฐฯ ต้องการปกป้องสันติภาพในช่องแคบไต้หวันจริงๆ ก็ควรต่อต้านการกระทำแบ่งแยกดินแดนอย่างชัดเจน ให้เกียรติต่อคำมั่นสัญญาที่ทำไว้ในแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ ทั้งสามฉบับ ดำเนินนโยบายจีนเดียว และหยุดส่งสัญญาณผิดๆกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดน

หวังกล่าวว่าถ้อยแถลงที่ไม่สุภาพล่าสุดของอเมริกา ชี้ให้เห็นถึงการกระทำที่ยั่วยุมากขึ้นของสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มความไม่แน่นอนต่อประเด็นไต้หวัน 

ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงาน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน และตกลงที่จะรักษาการเจรจาเพื่อจัดการกับความท้าทายระดับโลกต่างๆต่อไป จับตาการประชุมพรุ่งนี้ ว่าสหรัฐจะพูดว่าอย่างไร จีนจะให้จุดยืนที่ชัดเจนในประเด็นต่างๆเหล่านี้อย่างแน่นอน