จากที่ไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ออกมาให้ความเห็นภายหลังจากมีคำสั่งให้การกระทำของ3แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นการล้มล้างการปกครองนั้น
ทั้งนี้นายไพศาล ให้ความเห็นไว้ในเฟซบุ๊ก หลายช่วง หลายข้อความด้วยกันที่มีความน่าสนใจ กับการกระทำ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปว่า
“ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า เนื้อหาของการปราศรัย และการกระทำ ของผู้ถูกร้อง หลายประการ เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ผมจึงบอกไว้ก่อนแล้วว่า ไม่ต้องโต้เถียงกับพรรคการเมือง ว่าใครจะยกเลิกใครจะแก้มาตรา 112 ให้เขายื่นญัตติเข้าสภามาก่อน ถ้าเห็นว่าผิด ก็ขอยุบได้ทันที จะได้ไม่ต้องโต้เถียงให้ความขัดแย้งขยายตัว!!!! พรรคการเมืองใดจะทำอย่างที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ก็รีบยื่นเข้ามาได้ครับ”
ต่อมาอดีตกกรรมการผู้ช่วยรองนายกฯ หรือ ที่ปรึกษารองนายกฯ ได้โพสต์ข้อความอีกครั้ง ถึงบุคคลที่ต้องการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวาย ขู่จะเกิดสงครามกลางเมือง สงครามประชาชนว่า
“ถ้าไม่รู้จักสงครามประชาชน ก็อย่ามาชี้นำเรื่องสงครามประชาชน!!!
1 สงครามประชาชนจะเกิดได้ ก็ต่อเมื่อ
~ต้องมีผู้นำประชาชน ที่องอาจกล้าหาญ เป็นที่นับถือของประชาชน
~ ต้องมีทฤษฎีทำสงครามประชาชน เป็นทฤษฎีชี้นำ
~ ต้องมีมวลชนทั่วประเทศ ที่พร้อมเข้าสู่สงครามประชาชน จนถึงที่สุด
~ สถานการณ์ที่จุดชนวนสงครามประชาชนสุกงอม คือประชาชนทั่วประเทศพร้อมเข้าร่วมสงครามประชาชน
2 ปัจจุบันไม่มีเงื่อนไขทั้ง 4 ประการนั้นเลย!!! ไม่เห็นหรือว่าแม้ปั่นกระแสมานานจนหลายคนแก่เฒ่า ป่วยพิกลพิการกันแล้ว ก็มีคนร่วมชุมนุมแค่ระดับพันคน ชุมนุมได้ไม่กี่ชั่วโมงก็แยกย้ายกันไป
หลายปีมานี้ บทชี้นำสงครามประชาชนไม่เคยมีแม้แต่บทเดียว เพลงหรือละคร ปลุกใจในการทำสงครามประชาชน ก็ไม่มีปัญญาทำแม้แต่ชิ้นเดียว!!!
แบบนี้อย่ายกตนชี้นำเรื่องสงครามประชาชนเลย! จะทำลายอนาคตลูกหลานชาวบ้านหรือทำให้ชาวบ้านที่หลงเชื่อติดคุกเดือดร้อนเปล่าๆ”
ล่าสุดวันนี้ 11 พฤศจิกายน 2564 นายไพศาล ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ถึงผลต่อเนื่องเกี่ยวกับคดี เมื่อจะต้องมีการดำเนินการต่อไปว่า
“สิ้นสายฝน ลมหนาวจะปรากฎ เหล่ากบฎจะถูกปราบราบคาบสิ้น!!!! 1. เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคำปราศรัย และการกระทำหลายประการของผู้ถูกร้องและพวก ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ศาลจึงมีคำสั่งตามรัฐธรรมนูญให้เลิกการกระทำนั้น คำวินิจฉัยนี้ผูกพันทุกองค์กร
- ผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้นครบเป็นองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายอาญาว่าด้วยการกบฎ มีโทษประหารชีวิต!!!ผู้กระทำการทั้งหมดจึงอาจถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหากบฎต่อไป ซึ่งตำรวจท้องที่ หรือ ตำรวจกองปราบมีหน้าที่ต้องดำเนินคดีในฐานความผิดนี้
คาดว่ากองปราบ จะเป็นผู้ดำเนินคดีนี้เพราะเกี่ยวพันกับผู้ร่วมทำความผิดในหลายท้องที่ ซึ่งกองปราบมีเขตอำนาจทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงผู้กระทำความผิดคนอื่นๆ แม้ไม่ได้ถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วย!!!
- สำหรับพรรคการเมือง หรือ ข้าราชการการเมือง ถ้าร่วมกระทำความผิดดังกล่าว นอกจากถูกดำเนินคดีฐานกบฎแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องดำเนินการยุบพรรคการเมือง หรือ เพิกถอนตำแหน่งทางการเมืองต่อไป!!!
และเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องสั่งการให้ดำเนินการต่อไปด้วย!!! เรื่องนี้อาจมีผลให้พรรคการเมือง 2 พรรคต้องถูกยุบ และนักการเมือง 8-9 คน อาจถูกปลดและถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองได้!!!! อย่าทำเป็นเล่นกับศาล!!!!”