“แนวร่วมสามนิ้ว” กระอัก! ศาลรับฟ้อง “บ.บุญรอด” ฟ้องหาให้ใช้พื้นที่ยิงแก๊สน้ำตา ชี้คดีมีมูลบิดเบือนเป็นเท็จ

2461

“แนวร่วมสามนิ้ว” กระอัก! ศาลรับฟ้อง “บ.บุญรอด” ฟ้องหาให้ใช้พื้นที่ยิงแก๊สน้ำตา ชี้คดีมีมูลบิดเบือนเป็นเท็จ

จากกรณีเมื่อวันที่มีการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร เมื่อวันที่ 17พฤศจิกายน 2563 บริเวณรัฐสภา เกียกกาย ซึ่งในวันนั้นได้มีการฉีดน้ำสลายการชุมนุม โดยเมื่อเวลา 14.30 น. ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณรัฐสภา ด้านหน้า บ.บุญรอดฯ ต่อมาก็ได้มีการโพสต์ข้อความพาดพิงถึงบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ในสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยกล่าวหาว่ามีการให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้สถานที่ เพื่อสลายชุมนุมในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 บริเวณหน้าบริษัทฯ ถนนสามเสนนั้น ทำให้เกิดวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก

จนทำให้บริษัท บุญรอดฯ ได้ออกมาชี้แจ้งและยืนยันว่า ไม่มีบุคคลภายนอกหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกภาคส่วน เข้ามาใช้พื้นที่ภายในบริษัทฯ จึงขอชี้แจงมาเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลใดๆ ที่เผยแพร่ข้อความหรือภาพ ที่เป็นการกล่าวถึงหรือพาดพิง ทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหายไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ เกิดความเข้าใจผิดของประชาชนและเพื่อปกป้องชื่อเสียงของบริษัทฯ

ล่าสุด ทางทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ดพสต์ข้อความถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า

ศาลอาญากรุงเทพใต้ #รับฟ้อง คดี บ.บุญรอดฯ ฟ้อง #สรญา ธนพุทธิสิริ ข้อหา พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ศาลชี้คดีมีมูล การนำเข้าว่า ‘มีแก๊สน้ำตาพวยพุ่งมาจากบ.บุญรอดฯ’ เป็นข้อความบิดเบือนเป็นเท็จ ด้านจำเลยให้การปฏิเสธและขอสู้คดีต่อ ศาลจึงให้สืบพยานเพื่อสู้คดีต่อไป

ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สรญา ธนพุทธิสิริ ในข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 เหตุจากโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ผ่านเฟซบุ๊ก กรณีอาจมีการใช้แก๊สน้ำตาออกมาจากพื้นที่ที่ทำการของบริษัท บุญรอดฯ ขณะที่มีการสลายการชุมนุมบริเวณใกล้อาคารรัฐสภา #ม็อบ17พฤศจิกา เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 หลังมีการไต่สวนนัดแรกไปเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564

คำฟ้องของโจทก์ระบุว่า สรญาได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นในเพจเฟซบุ๊ก “ประชาชนเบียร์” ซึ่งโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา เป็นข้อความว่า “ไม่ทราบว่านี่กําแพง บ.บุญรอดรึเปล่าคะ แต่ตอนเราไลฟ์ เรายืนอยู่ตรงหน้าป้ายบ.บุญรอดบลิว” พร้อมทั้งอัพโหลดคลิปเหตุการณ์ชุมนุมบริเวณถนนหน้าที่ตั้งสํานักงานใหญ่ของโจทก์ และต่อมาจำเลยยังได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวในลักษณะว่า ตนถูกข่มขู่จะฟ้องจากมีคลิปไลฟ์สดเหตุการณ์หน้าบริษัท บุญรอดฯ และโพสต์ข้อความแรก แต่ตนยืนยันว่าจะไม่ลบ ซึ่งโจทก์อ้างว่า ทั้งหมดเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและบิดเบือน ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง