ส่งออกแรงไม่ตก!?!ปั้มรายได้ 9 เดือน 6.2 ล้านล้านบ. ดันเศรษฐกิจฟื้น

1205

ข่าวดีที่ทำให้คนไทยได้มีกำลังใจเพิ่ม คือเรื่องเครื่องจักรเศรษฐกิจตัวสำคัญของเราด้านการส่งออก คราวนี้กระทรวงพาณิชย์โชว์ตัวเลขส่งออกกันชัดๆ เดือนกันยา +17.1% ได้ดุลการค้ากว่า 10,000 ล้านบาท มีสินค้าเกษตรยืนหนึ่งที่เป็นบวกต่อเนื่อง ล่าสุดยางพาราส่งออก +12.9% เป็นอันดับ 1ของสินค้าเกษตรทำสถิติขยายตัว 12 เดือนต่อเนื่อง

วันที่ 26 ต.ค.2564 – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมทีมงานได้แก่ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนกันยายน 2564 และ 9 เดือนแรกของปี 2564

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนกันยายน 2564 ขยายตัวเป็น +17.1% ยอดการส่งออกทั้งหมดเดือนกันยายนรวม 760,556 ล้านบาท ทำให้ประเทศไทยได้ดุลการค้าในเดือนกันยายนรวมทั้งสิ้น 10,289 ล้านบาท ตัวเลขรวม 9 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออก +15.5% ทำรายได้เข้าประเทศรวม 6.2 ล้านล้านบาท สินค้าสำคัญ 3 หมวดประกอบ 1.สินค้าเกษตร 2.สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรและ 3.หมวดอุตสาหกรรม มีรายละเอียดคือ:

1.หมวดสินค้าเกษตรในภาพรวมเป็น +12.9% ทำรายได้เข้าประเทศรวม 64,831 ล้านบาท และ 9 เดือนแรกขยาย +24.7% ทำเงินเข้าประเทศ 611,907 ล้านบาท สินค้าเกษตรสำคัญมี 5 ตัว 

1)ยางพารา ยอดส่งออกเดือนกันยายน +83.6% ทำเงินเข้าประเทศ 15,138 ล้านบาท เป็นบวก 12 เดือนต่อเนื่อง และบวกในทุกตลาด เช่น จีน มาเลเซีย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นต้น 

2)ลำไยสด เดือนกันยายน +73.8% เป็นบวกทุกตลาด  4 เดือนต่อเนื่อง ทั้งตลาดจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฮ่องกง เป็นต้น 

3)มะม่วงสด +55.9% บวกทั้งในตลาดเกาหลี มาเลเซีย ญี่ปุ่นและเมียนมา 

 

 

4)มันสำปะหลัง  +44.4% ทำมูลค่าเข้าประเทศ 10,432 ล้านบาท บวกในหลายตลาดซึ่งหลายคนเข้าใจว่ามันสำปะหลังพึ่งแต่ตลาดจีนเป็นหลัก แต่เรามีตลาดอื่นๆอีกหลายตลาด เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินโดนีเซียและเกาหลี เป็นต้น 

5)ข้าว เดือนกันยายน +33.8% ทำเงินเข้าประเทศ 10,869 ล้านบาท บวกในตลาดสหรัฐฯ แอฟริกา จีน อิรักและมาเลเซีย เป็นต้น

2.หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เดือนกันยายน +11.3% ยอดส่งออก 56,589 ล้านบาท มาดูว่ามีอะไรบ้าง

1)ผลไม้กระป๋องและผลไม้แปรรูปเดือนกันยายน +29.3% โดยเฉพาะสับปะรดกระป๋อง +118.3% 

2)อาหารสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นพระเอกมาโดยตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เดือนกันยายน +23.6% เป็นบวก 25 เดือนต่อเนื่อง ทั้งในตลาดสหรัฐฯ มาเลเซีย ออสเตรเลีย อิตาลี ฟิลิปปินส์ เป็นต้น

 

3.หมวดสินค้าอุตสาหกรรม ภาพรวมเดือนกันยายน +15.8% ทำเงินเข้าประเทศ 608,317 ล้านบาท สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ 

1.)สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน +61% ทำเงินเข้าประเทศ 91,585 ล้านบาท 

2)เหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก +38.8% ทำเงินเข้าประเทศ 20,302 ล้านบาท

3)เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ +32.8% ทำเงินเข้าประเทศ 26,507 ล้านบาท

4)รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ +4.9% ยอดส่งออก 73,911 ล้านบาท ถือว่าเป็นบวก 11 เดือนต่อเนื่อง  ทำเงินเข้าประเทศ 661,459 ล้านบาท

ในภาคตลาด มีตลาดใหม่ที่เป็นตลาดเป้าหมายที่ กรอ.พาณิชย์ได้ประชุมร่วมกันและมีความเห็นว่านอกจากรักษาตลาดเดิมแล้วเราต้องเพิ่มตลาดใหม่และฟื้นตลาดเก่าที่เสียไปให้กลับคืนมา ตลาดใหม่ประสบความสำเร็จมาก เช่น 

1)ตลาดเอเชียใต้ +69% 

2)ตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS +42.5% สำหรับกลุ่มประเทศซีไอเอสคือเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States: CIS) ประกอบด้วยสมาชิก 11 ประเทศ เช่น รัสเซีย และกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต ประเทศเหล่านี้ไทยได้GSP

3)ตลาดแอฟริกา +30.2% 

4)ตลาดตะวันออกกลาง +17.4% 

5)ตลาดลาตินอเมริกา +10.1% เป็นต้น ซึ่งเป็นตลาดใหม่ทั้งสิ้น

เหตุผลประการสำคัญที่ตัวเลขการส่งออกเดือนกันยายนยังดีและเป็นบวกถึง 17.1%  ทั้งๆที่เราประสบกับปัญหาโควิดและปัญหาภาคการผลิตในช่วงที่เราล็อกดาวน์ เป็นเพราะว่า

1.เพราะแผนงานส่งเสริมการส่งออกที่กำหนดไว้เป็นรูปธรรมถึง 130 กิจกรรมในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 บรรลุผลและเป็นการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 

2.ภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มดีขึ้น 

3.ค่าเงินบาทที่ยังอ่อนและมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่า จะช่วยทำให้สินค้าของเราสามารถแข่งขันด้านราคาในตลาดโลกได้

4.ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น จะมี 2 มุม มุมลบคือ ทำให้ต้นทุนการผลิตแพงขึ้น แต่ก็ทำให้สินค้าส่งออกของเราที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วย มีส่วนเสริมทำให้ตัวเลขส่งออกมากขึ้น

5.ประการสุดท้ายเนื่องจากศักยภาพภาคเอกชนของเราเข้มแข็ง ทำให้ภาคการผลิตด้านอุตสาหกรรมของเราฟื้นตัวเร็ว 

 

ด้านนายรณรงค์ พูลพิพัฒน์  ผู้อำนายการสำนักงานนโยบาบและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)กล่าวเพิ่มเติมว่า การส่งออกไทยเดือน ก.ย. 64 กลับมาอยู่ที่เหนือระดับ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (มูลค่า 23,036 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) อีกครั้งเป็นเดือนที่ 3 หลังจาก มี.ค. 64 มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 24,222 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ มิ.ย. 64 มีมูลค่า 23,699 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ การส่งออกช่วงที่เหลือของปี 2564 น่าจะมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง เนื่องจากอุปสงค์จากต่างประเทศยังมีทิศทางฟื้นตัวดีตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจากประเทศคู่ค้าสำคัญ ที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ มองว่าการส่งออกทั้งปี 2564 จะขยายตัวได้ในระดับ 2 หลัก เกินกว่าเป้าหมายการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ที่ 4% แน่นอน สอดคล้องกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ ประเมินไว้