หมอธีระ ชี้ โควิดเสี่ยงระบาดซ้ำจาก 3 ต้นตอ ติดเชื้อรายวันสูง คุมยากกว่าเดิม

2032

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้โควิดเสี่ยงระบาดซ้ำจาก 3 ต้นตอ ติดเชื้อรายวันสูงกว่าเดิมอย่างรวดเร็ว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ต้องบอกว่ากำลังเป็นที่น่าจับตาอยู่ในขณะนี้ เรียกว่าต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเลยทีเดียว เพราะเนื่องจากประเทศไทยของเรา ติดกับประเทศเพื่อนบ้านมีผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวัน ต้องเฝ้าระวังตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันแรงงานลักลอบเข้าไทย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ทางด้าน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดว่า

สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 2 ตุลาคม 2563…
เมื่อวานติดเพิ่มไปอีก 301,424 คน รวมแล้วตอนนี้ 34,412,538 คน ยอดตายรวม 1,022,827 คน
อเมริกา ติดเพิ่ม 48,101 คน รวม 7,489,214 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 81,693 คน รวม 6,391,960 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 10,040 คน รวม 4,820,116 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 8,945 คน รวม 1,185,231 คน เป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่องกันถึง 19 วันแล้ว
อันดับ 5-10 ตอนนี้เป็น โคลอมเบีย เปรู สเปน อาร์เจนตินา เม็กซิโก และแอฟริกาใต้ ติดกันหลักพันถึงหมื่นกว่าคนต่อวัน
ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเมียนมาร์ ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหมื่นกว่า
หลายต่อหลายประเทศในยุโรปก็ยังติดกันหลักร้อยถึงหลักพัน
ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ติดเพิ่มกันหลักร้อยถึงหลายร้อย ส่วนจีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง นิวซีแลนด์ และออสเตรเลียติดเพิ่มกันหลักสิบ ในขณะที่เวียดนามยังมีติดเพิ่มหลักหน่วย
…สถานการณ์ในเมียนมาร์ยังรุนแรงขึ้น ติดเพิ่มไปอีกถึง 1,010 คน ตายเพิ่มอีก 11 คน ตอนนี้ยอดรวมถึง 14,383 คน ตายไปมากถึง 321 คน อัตราตายตอนนี้ไม่ดีขึ้น ยังคงเดิมคือ 2.2%
…สหราชอาณาจักรตอนนี้ยังคงระบาดเยอะ ติดไปรวม 460,178 คน ตายไปแล้ว 42,202 คน อัตราตายเฉลี่ยสูงถึง 9.2%
…มาเลเซีย ตอนนี้น่าจับตามอง เพราะติดเพิ่มไปถึง 260 คน ลักษณะมี peak มาเป็นระยะๆ ราวทุกสัปดาห์และ peak ก็สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยระหว่างนั้นก็ติดขยับจากหลักสิบมาหลักร้อย…แนวโน้มดูจะรุนแรงขึ้น
…ไทยเรา อยู่ติดเมียนมาร์ด้านบน และมาเลเซียด้านล่าง ก็คงต้องระมัดระวัง คัดกรองการข้ามแดนอย่างเข้มแข็ง ระมัดระวัง และคงต้องเอาใจช่วยให้เค้าคุมโรคได้โดยเร็ว
…ถามกันมาเยอะว่าโอกาสเสี่ยงระบาดซ้ำที่สูงขึ้นมากนั้น จะมาในรูปแบบใดได้บ้าง หากดูจากข้อมูลของประเทศอื่นทั่วโลกที่เคยคุมได้แล้วมาระบาดซ้ำ คงจะหนีไม่พ้น
หนึ่ง แรงงานต่างด้าว ทั้งเข้ามาผ่านช่องทางปกติหรือแอบลักลอบเข้ามา
สอง นักท่องเที่ยวต่างชาติ
สาม อื่นๆ ที่ไม่ทราบต้นตอแน่ชัด
ระบาดซ้ำนั้นมักจะเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว หาต้นตอลำบาก กระจายเร็วและกว้าง คุมยาก ใช้เวลาคุมนานกว่าเดิมเฉลี่ย 1.5-3 เท่า และ peak ติดเชื้อรายวันนั้นมักสูงกว่าเดิมราว 1.3-2.6 เท่า หากปล่อยให้เกิดขึ้นจะเกิดผลกระทบมาก
ดังนั้นธุรกิจห้างร้านและครัวเรือนต่างๆ ที่ใช้แรงงานต่างด้าว ควรนำไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายและนำไปตรวจโควิดให้เรียบร้อย ทั้งนี้หากมีการจ้างคนจำนวนมาก ก็ควรทำการส่งตรวจคัดกรองโควิดเป็นระยะๆ โดยอาจทำการตรวจหาสารพันธุกรรมไวรัสจากน้ำลายแบบรวมกันตรวจสัก 5-10 คนในแต่ละครั้ง ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ
เรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผมไม่คิดว่าจะควบคุมได้ตามที่รัฐหวัง และหากมีการเล็ดรอดของผู้ติดเชื้อจากระบบคัดกรองกักตัวเข้าสู่ชุมชน ก็มีโอกาสระบาดซ้ำสูงหากประชาชนในสังคมไม่ตั้งการ์ดให้เข้มแข็ง ยิ่งรับมาเยอะยิ่งเสี่ยงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ประชาชนอย่างเรา ขอให้รักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอ
หัวใจสำคัญที่สุดคือ “การใส่หน้ากากเสมอ” และ “การคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ให้รีบไปตรวจ”
ด้วยรักต่อทุกคน
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 2 ตุลาคม 2563…เมื่อวานติดเพิ่มไปอีก 301,424 คน รวมแล้วตอนนี้ 34,412,538 คน ยอดตายรวม…

Posted by Thira Woratanarat on Thursday, October 1, 2020