อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ออกแถลงการณ์โจมตีฝ่ายบริหารของไบเดน เกี่ยวกับวิกฤตผู้อพยพชายแดนในรัฐเท็กซัสที่ผู้อพยพนับหมื่นถูกควบคุมตัวไว้ใต้สะพานนานาชาติเดลริโอ ส่งผลวิกฤติซ้อนวิกฤต ทั้งการแพร่ระบาดโควิด ความสกปรกหมักหมมเท่ากับทำให้ สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศส้วมซึมของโลกโดยไม่แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา อดีตประธานาธิบดีทรัมป์แถลงการณ์ตำหนิฝ่ายบริหารไบเดนและสื่อกระแสหลัก เนื่องจากไม่สนใจกับสถานการณ์วิกฤตผู้อพยพในเดลริโอ และโจมตีว่าสถานการณ์ชายแดนจะกลายเป็น“วิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ”เป็น“วิกฤตซ้อนวิกฤตอย่างแท้จริง”
การข้ามแดนที่ผิดกฎหมายได้เพิ่มขึ้นภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และการรายงานถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้อพยพย้ายถิ่น ทำให้ผู้อพยพจำนวนมากพากันบุกมาอย่างล้นหลาม ตลอดจนกลวิธีในการดำเนินการจับและปล่อย ได้ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแห่งสหรัฐฯ (DHS) ได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มเที่ยวบินอพยพแต่คนตกค้างยังมีมากกว่า 12,000 คนที่ยังคงอยู่ที่สะพานในเท็กซัสอย่างแออัด
ตามการคาดการณ์ที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ มีการจับกุมผู้อพยพชายแดนกว่า 1.85 ล้านครั้งในปีนี้ ทำลายสถิติ 1.64 ล้านในปี 2543
ทรัมป์วิพากษ์อย่างหนักว่า “จำนวนคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย มีมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐฯ และกำลังหลั่งไหลเพิ่มเข้ามานับล้าน พวกเขาไม่ได้รับการตรวจสอบโดยสิ้นเชิง สามารถทำทุกอย่างที่ต้องการ และไปทุกที่ที่ต้องการ” พร้อมเสริมว่า“นักฆ่า ผู้ค้ายา และอาชญากรทุกรูปแบบและทุกขนาดเป็นส่วนหนึ่งของการอพยพครั้งใหญ่และเมื่อยอมปล่อยเข้าสู่สหรัฐอเมริกา ทำให้ประเทศนี้กลายเป็น“ส้วมซึมของมนุษยชาติ”ไปแล้ว
ล่าสุด ไบเดนโดนวิพากษ์วิจารณ์หนักจากสื่อและโซเชียล เกี่ยวกับภาพและวิดีโอที่ปล่อยออกมาจากเดล ริโอ ซึ่งมีรายงานว่าสะพานถูกใช้เป็นที่กักกันชั่วคราวสำหรับผู้อพยพกว่า 14,000 คน ทั้งแออัดและสกปรกมาก
บรูโน โลซาโน นายกเทศมนตรีเมืองเดล ริโอ (Bruno Lozano:Del Rio’s Mayor )เปิดเผยว่ามีผู้อพยพ 14,335 คนอาศัยอยู่ใต้สะพานในเดลริโอ รอคอยการจัดสรร แม้เที่ยวบินอพยพยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐเท็กซัสจำนวนมากทำงานอย่างหนัก และต้องโทษเหตุวิกฤตที่สะพานแห่งนี้ต่อปธน.โจ ไบเดนและคณะบริหารของเขา แต่หลังจากขอความช่วยเหลือจากฝ่ายบริหารแล้ว เขาได้บรรยายสรุปให้ อเลจานโดร มายอร์กาส(Alejandro Mayorkas) รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเกี่ยวกับสถานการณ์เลวร้ายเหล่านี้
เมื่อสัปดาห์ก่อนกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแห่งสหรัฐอเมริกา (DHS) ได้ให้สัญญาว่าจะเพิ่มจำนวน “เที่ยวบินของผู้อพยพผิดกฎหมาย” ขณะที่มีผู้อพยพกว่า 14,000 คนอยู่ใต้สะพานนานาชาติเดลริโอ รัฐเท็กซัส
เมื่อวันเสาร์ที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา DHS ได้ออกแถลงการณ์สรุปกลยุทธ์ 6 ประการเพื่อจัดการกับผู้อพยพผิดกฎหมายในเท็กซัส ข้อความในแถลงการณ์เปิดเผยว่า“DHS จะจัดการขนส่งเพิ่มเติมเพื่อเร่งความเร็วและเพิ่มความสามารถในการจัดเที่ยวบินไปยังเฮติและจุดหมายปลายทางอื่น ๆ นอกสหรัฐฯภายใน 72 ชั่วโมงข้างหน้า”
Border Crisis: After exposing the massive explosion in illegal border crossings in the last 24-hours with their overhead drone, the FAA steps in to ban Fox News from flying. pic.twitter.com/D1lnSfnyET
— Nicholas Fondacaro (@NickFondacaro) September 17, 2021
ตัวแทนเจ้าหน้าที่จำนวน 400 คน ก็จะถูกส่งไปยังเดลริโอ ภายใน 48 ชั่วโมงในการจัดการความช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อลดความแออัดและปรับปรุงสภาพสำหรับผู้อพยพในแผ่นดินสหรัฐ”ซึ่งรวมถึง จัดหาช่างเทคนิคการแพทย์ น้ำ และห้องสุขา ให้แก่ผู้อพยพ ทั้งนี้เพื่อบรรเทาภาระของพื้นที่และแสดงความมั่นใจว่าแรงงานข้ามชาติที่ผิดกฎหมายจะถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วทั้งในส่วน นำเข้าห้องขัง, การประมวลผล และนำออกจากสหรัฐอเมริกา
DHS กล่าวว่าผู้อพยพส่วนใหญ่ จะถูกส่งขึ้นเครื่องในเที่ยวบินส่งออกประจำวันไปยังเฮติ เม็กซิโก เอกวาดอร์ และประเทศทางตอนเหนือ และเรียกผู้อพยพผิดกฎหมายเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อสุขภาพและสวัสดิภาพของชุมชนชายแดนสหรัฐฯและต่อชีวิตของผู้อพยพเอง