บช.น.โต้กลับ”ทะลุแก๊ส” บิดเบือน ทำคฝ.เจ็บหนัก ทั้งที่ความจริง มีสิทธิ์ยกระดับเข้มป้องกันตัว

1557

จากกรณีที่ทวิตเตอร์ @FreeYOUTHth ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้โพสต์ภาพรถควบคุมผู้ต้องหาคันหนึ่ง เมื่อช่วงกลางดึก 12 ก.ย. ที่ผ่านมา พร้อมระบุข้อความว่า “ด่วน!! ตำรวจตั้งใจขับชนเยาวชนที่พยายามวิ่งหนีจนตัวปลิว! ”จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นนี้อย่างมาก

ล่สุดทางด้านพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษเภตรา ผบช.น. เปิดเผย ถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า เป็นตำรวจจริง โดยได้รับคำสั่งให้นำรถควบคุมผู้ต้องขังไปเฝ้าสังเกตุการณ์ มื่อเหตุการณ์ยุติก็ย้ายไปที่ บช.ปส. กระทั่งเมื่อเวลา 23.00 น. มีการเปิดการจราจรตามปกติ จึงได้ขับรถมาถนนวิภาวดีฯ

จนมาถึงสามเหลี่ยมดินแดง พบกลุ่มบุคคล 6-7 คน วิ่งออกมาทุบรถ เกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงขับรถหลบหนี จนเกิดเหตุเฉี่ยวชนขึ้น ขณะนั้นคนขับได้หยุดดูเหตุการณ์และขับไปต่อ โดยนำรถไปที่รพ.พระมงกุฏ และแจ้งต้นสังกัดให้ทราบ ก่อนที่พฐ.จะเข้าตรวจสอบสภาพรถ และลงบันทึกประจำวัน พร้อมร้องทุกข์ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ และร่วมกันทำลายทรัพย์สินของทางราชการ

ส่วนกรณีที่ว่า เป็นการชนแล้วไม่ช่วยหรือไม่นั้น ผบช.น. ยืนยันว่า ไม่ใช่คนขับมองไม่เห็น แต่ขณะนั้นถูกรุมทำร้ายทุบตีและเข้ามาขัดขวางเส้นทาง ตำรวจพยายามเบรก และหยุดดู พร้อมทั้งรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ทั้งนี้ไม่ใช่การชนแล้วหนี แต่เจ้าหน้าที่พยายามตรวจสอบสถานพยาบาลใกล้เคียง ก็ไม่พบว่ามีใครเข้ารับการรักษา ซึ่งบุคคลใดที่ได้รับบาดเจ็บจากการดำเนินการของตำรวจก็สามารถเข้าร้องทุกข์ได้เช่นกัน เป็นสิทธิตามกฎหมาย

ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ผู้ชุมนุมมีการเผาทำลายทรัพย์สิน เกิดความเสียหาย ก่อเหตุความวุ่นวาย ส่วนเหตุการที่มีการเข้าพื้นที่แฟลตดินแดงนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นไม่หยุด เป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยจะขอพูดที่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตำรวจทำในกรอบของกฎหมาย ไม่ได้เอากำลังไล่ตีกลุ่มคนชุมนุมโดยไม่มีเหตุผล ตำรวจจะอยู่ในที่ตั้ง บางครั้งคนก่อเหตุเผาทำลายทรัพย์สินจึงใช้กำลังเข้าควบคุมเพื่อให้เหตุการณ์ไม่ลุกลาม

ทุกวันนี้ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายนาย ข้อเท็จจริง คือ ตำรวจไม่ได้ใช้อาวุธปืนจริงสักครั้ง ใช้เพียงกระสุนยาง แก๊สน้ำตา ส่วนการป้องกันตั้งด่านสกัดนั้น ตำรวจพยายามตรวจค้นรถต้องสงสัย รถจักรยานยนต์เป็นหลัก แต่ก็จะมีผู้ชุมนุมเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีหญิงสาว 2 คน ถูกทำร้ายโดยระบุว่ามาจากการกระทำของ คฝ.นั้น ขณะนี้ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

หลังจากนี้ ทางบช.น. จะดําเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทําความผิดมาดําเนินคดีตามกฎหมายทุกราย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ความรุนแรง วางเพลิงเผาทรัพย์ และก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งหากเยาวชนได้กระทําความผิด ผู้ปกครองอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วยเช่นกัน สรุปการดําเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนก.ค. ที่ผ่านมาจนถึง ปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 204 คดี มี ผู้ต้องหาทั้งหมด 756 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 511 คน