เปิดคลิปช็อตต่อช็อต! “บิ๊กตู่” ลั่นทำไมต้องคุย “ธรรมนัส” เจ้าตัว รีบปัดดีลพรรคเล็กคว่ำนายกฯ?
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (1 กันยายน 2564) เมื่อเวลา 16.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภาด้วยท่าทีผ่อนคลาย โดยผู้สื่อข่าวถามว่าอารมณ์ดีหรือยัง นายกฯกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มว่า “ดีเสมอ”
เมื่อถามว่าได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ทำไมต้องคุยล่ะ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่ามีกระแสข่าวว่าเป็นผู้เคลื่อนไหว เกี่ยวกับการล็อบบี้คะแนนเสียงโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา ว่าไป เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่า ร.อ.ธรรมนัสปฏิเสธว่าไม่ได้ล็อบบี้เสียงจากส.ส. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่รู้เหมือนกัน เขาพูดแล้วหรอ ไม่รู้”
ทั้งนี้เมื่อช่วงเที่ยงมีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้เรียก นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพปชร.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน รองหัวหน้าพรรค พปชร.และสว.บางคนเข้าพบ เพื่อพูดคุยถึงกระแสข่าวลือต่างๆในขณะนี้
ในขณะที่ทางด้าน ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพะเยา เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่า ตนได้เดินสายประสานพรรคเล็กเพื่อให้โหวตคว่ำนายกรัฐมนตรีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ตนเป็น ส.ส. มาปีนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ชื่นชมสื่อมวลชนทุกสำนัก ยกเว้นสำนักข่าวที่พยามนำเสนอข่าวให้ตนเสียหาย ขอให้มีจริยธรรมและจิตสำนึกการนำเสนอข่าวเรื่องต่างๆ ด้วย การคิดเอง เออเอง และเขียนเอง
โดยยืนยันว่าตนไม่เคยสนใจหรือใส่ใจเรื่องตำแหน่งและหน้าที่ ที่ผ่านมาตนได้พูดเสมอว่าที่ตนมาถึงจุดนี้ได้ ลูกชาวนา เด็กบ้านนอกจนๆ ที่ถึงเวลานี้ได้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อพี่น้องประชาชน ตนถือว่าชีวิตนี้สูงสุดแล้ว ที่เหลือหากตนมีโอกาสทำเพื่อชาติบ้านเมืองและรับใช้แผ่นดิน รับใช้พี่น้องประชาชน ตนก็จะทำให้ดีที่สุด
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคงไม่ต้องพูดอะไรมากว่าตนทำอะไรเพื่อบ้านเมือง เพื่อพี่น้องประชาชนบ้าง ดังนั้นการจะมาแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันในรัฐบาลและในคณะรัฐมนตรี (ครม.) กันไม่ใช่พฤติกรรมของตน ซึ่งหากยังจำได้ว่าในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐที่จังหวัดขอนแก่น ในขณะที่ตนได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่นั้น ตนได้ยืนยันว่าจะนำพาพรรคพลังประชารัฐ สถาบันการเมืองที่มีความเข้มแข็งเป็นที่พึ่งของประชาชน ตนก็จะทำต่อไป
ดังนั้น ข่าวลือที่กล่าวหาว่าตนทำโน่นทำนี่นั้นไม่จริง แม้กระทั่งขณะที่ตนลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ก็มี ส.ส. หลายคนโทรมาถามตนเรื่องหัวหน้าพรรคเล็กเสนอรับเงิน 10 ล้านบาท และร้ายไปกว่านั้น มีรัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐรับงานมาล็อบบี้ ทั้ง ส.ส. เพื่อไทย ส.ส. ประชาธิปัตย์ แม้กระทั่ง ส.ส. ในพรรคพลังประชารัฐเอง เพื่อโหวตสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งต้องถามว่าการเป็นรัฐมนตรีสมควรที่จะทำอย่างนั้นหรือไม่ ท่านควรจะเห็นผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง คนที่ว่า 4 ช. ฝากไปบอกเขาด้วยว่าทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้าง อย่าเห็นประโยชน์ส่วนตัว
ทั้งนี้ กรณีที่ตนมีรายชื่อติดหนึ่งในบุคคลที่ร่วมล้มนายกรัฐมนตรีนั้น ในรัฐธรรมนูญก็ระบุชัดเจนว่า 1 เสียงของ ส.ส. คือเสียงของประชาชน เพราะฉะนั้น ส.ส. เขารู้จักคิด รู้จักคำว่าเขาจะทำอะไร เราไม่สามารถไปครอบงำเขาได้ มติพรรคจะไปทำโน่นทำนี่ไม่ได้ มันผิดรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชารัฐไม่มีอย่างนั้น ตนไม่ได้ถูกใช้ให้มาล็อบบี้ใคร ไม่ว่าจะให้ช่วยรัฐบาลหรือไประดมพรรคอื่นให้มาช่วยในการโหวตคว่ำนายกรัฐมนตรี ตนไม่ทำ สำหรับภาพที่ปรากฏว่าตนนั่งคุยกับหัวหน้าพรรคเล็กในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น ทุกครั้งที่ตนเข้าสภาก็มีพี่น้องทั้งพรรคเพื่อไทยและทุกพรรคเข้ามาสวัสดีและขอถ่ายรูปกับตนเป็นปกติ ซึ่งตนก็ไม่เคยคิดหรือปฏิบัติว่าเป็นพี่น้องต่างพรรคการเมือง
“ความคิดเราไม่ต้องเป็นศัตรูกัน แม้กระทั่งที่ผมถูกกระทำอย่างไร ผมไม่เคยโทษใคร เพราะได้พูดกับตัวเองมาตลอดว่าเราควรนำมาปรับปรุงตนเอง และใน ครม. ต้องถามว่าใครโดนหนักเท่าผมบ้าง เช่น มีม็อบบุกไปที่บ้าน ใครโดนเท่าผมบ้าง ใครเคยได้ยินผมบ่นบ้าง ไม่เคยแหกปากสักคำ ตนไม่ใช่คนประเภทเหยียบหางหน่อยแหกปาก นั่นไม่ใช่ตน ซึ่งขบวนการล้มนายกรัฐมนตรีจะมีหรือไม่มีต้องย้อนกลับไปถามคนให้ข่าว ซึ่งต้องบอกว่าคนให้ข่าวไม่ใช่คนของพรรคฝ่ายค้าน เป็นพรรคฝ่ายรัฐบาลเอง ไอ้ห้อย ไอ้โหนทั้งหลายที่ชอบเลียแข้งเลียขาให้สำเหนียกเสียบ้าง ซึ่งบางคนตนได้บันทึกเทปไว้หมดแล้ว เดี๋ยวเจอกัน
ร.อ. ธรรมนัส ยังกล่าวด้วยว่า กระแสข่าวที่เกิดขึ้นตนไม่เคยพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เนื่องจากนายกรัฐมนตรีท่านก็เคยพูดแล้วว่าจะขอพูดคุยกับหัวหน้าพรรคเท่านั้น ตนในฐานะลูกพรรคและเลขาธิการพรรค ตนถามว่ามีวันไหนที่ตนไม่นั่งทานข้าวกับหัวหน้าพรรคบ้าง และการประชุมพรรคพลังประชารัฐที่ผ่านมา ต้องถามว่าตนได้เคยพูดอะไรเกี่ยวกับการเลื่อยขาเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ท่านได้ยินจากปากตนหรือ ตนพูดเพียงว่า ส.ส. ในพรรคอึดอัดหลายๆ เรื่อง