สืบเนื่องจากกรณีที่พระอานนท์ ธัมโชโต พระวัดภัทรสิทธาราม ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เดินทางมาให้กำลังใจ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ และให้สัมภาษณ์สื่อว่าไม่เชื่อ กรณีที่ผกก.โจ้ รีดไถเงิน 2 ล้าน ส่วนการเอาถุงไปคลุมหัวผู้ต้องหา อาจจะหนักมือไป จนเกิดความผิดพลาดจนถึงแก่ชีวิต
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ส.ค.64 นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. กล่าวว่า นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการมายัง นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการพศ. ขอให้มีข้อสั่งการไปยังผู้อำนวยการพศ.จังหวัดนครสวรรค์ ตรวจสอบรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว
รวมถึงประสานไปยังวัดต้นสังกัดของพระรูปดังกล่าว ให้ตักเตือนเพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ส่วนจะตักเตือนวิธีใดนั้น ขึ้นอยู่กับทางเจ้าคณะผู้ปกครองจะพิจารณาตามความเหมาะสม แต่จะต้องตักเตือนจะเพิกเฉยไม่ได้ เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
“การให้กำลังใจถือเป็นสิ่งที่ดี เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ แต่ต้องดูที่ความจำเป็นและความเหมาะสม ซึ่งการที่พระอานนท์ไปให้กำลังใจ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เมื่อมีการไปออกสื่อทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ไปในแง่ต่าง ๆ นั้น ซึ่งแม้ไม่สามารถพูดได้ว่าผิดพระธรรมวินัยหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และจำเป็นต้องตักเตือน”
ขณะที่ทางด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อขอให้สั่งการไปยังเจ้าคณะปกครองสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ ให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดพระอานนท์ ธัมโชโต พระวัดภัทรสิทธาราม ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ที่พระธรรมวินัยและพระจริยาสงฆ์อย่างร้ายแรง
ส่วนทางด้านผู้ประกาศข่าวชื่อดังช่อง TOP News นายกนก รัตน์วงศ์สกุล ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นของ พระอานนท์ ธัมโชโต ผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก ระบุด้วยว่า “เรื่องโจ้ ฟาดหัวฟาดหางไปหลายวง
– วงการนำเข้ารถหรู
– วงการทนาย..ต่างอ้างตัวเองเป็นคนดี
– ย้อนดู สาว ๆ แฟนโจ้ ปัจจุบันเป็นคนทีวี
– พ่อแฟนเป็นนายตำรวจใหญ่ กำลังจะเกษียณ
– แวดวงตำรวจ ขั้วอำนาจเก่า
– และมาถึงวงการผ้าเหลือง ล่าสุด สำนักงานพระพุทธฯสั่งตรวจสอบ “พระอานนท์ ธัมโชโต” พระวัดภัทรสิทธาราม นครสวรรค์ หิ้วข้าวหิ้วน้ำมาให้กำลังใจโจ้
” โจ้เป็นลูกผู้ชาย รับผิดคนเดียว ไม่เชื่อรีดเงิน 2 ล้าน ส่วนเรื่องทรมานนักโทษจนตาย อาจหนักมือไปบ้าง แต่ไม่มีใครเกิดมาดีเต็มร้อย”
“ที่มาให้กำลังใจ เพราะไม่อยากให้ผู้กำกับฆ่าตัวตาย ไม่อยากให้คิดมาก…”
สาธุ.. ได้มั้ยอ่ะ ”
อย่างไรก็ตามได้มีชาวโซเชียล แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้ด้วยว่า การที่พระสงฆ์เข้ามายุ่งเรื่องนี้ ทำให้ผู้คนไม่อยากกราบไหว้ เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ และการปฏิบัติเช่นนี้ ผู้คนไม่ศรัทธา ดีแล้วถูกที่ตรวจสอบการกระทำ เพราะเข้าข่ายพระธรรมวินัยและพระจริยาสงฆ์อย่างร้ายแรง