จากกรณีโตโต้ ได้ออกมาโพสต์หมายเรียก พร้อมข้อความลงเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 โดยอ้างถึงคดีว่าโดนขู่เข็ญจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทั้งยังใช้ถ้อยคำประชด หากไปม็อบแล้วพกถุงดำไปด้วย จะถูกดำเนินคดีร้ายแรงกว่านี้หรือไม่
สำหรับข้อความที่โตโต้ หรือ นายปิยรัฐ โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ระบุเนื้อหาทั้งหมดว่า “นั่นไง ว่าแล้ว นี่ขนาดผมยังไม่ได้ทำอะไรนะ คิดดูว่าผมระมัดระวังตัวขนาดไหน ผมยังโดนขู่เข็ญว่าจะประทุษร้ายเจ้าหน้าที่
นี่ถ้าผมถือถุงดำไปม็อบ จะไม่โดนเจตนาฆ่าเจ้าพนักงานเลยหรอ ใครโดนข้อหาเดียวกันนี้แสดงตัวด้วยครับ”
ขณะที่เจ๊จุก คลองสาม ได้แชร์ข้อความพร้อมหมายเรียกของโตโต้ โดยมีความคิดเห็นเพิ่มเติมจากกรณีดังกล่าวด้วยว่า
“ความสุขของเจ๊ ในทุกวันนี้ และเป็นแรงผลักดันให้เจ๊สู้ต่อไปเรื่อยๆ คือ การได้เห็นโตโต้และสมุน ดิ้นทุรนทุรายเพราะหมายจับนี่แหล่ะ และโลกนี้จะน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ในวันที่โต้เดินคอตกเข้าคุกไปซึ่งเมื่อถึงวันนั้นเจ๊สัญญาว่าจะเลิกตามหลอกหลอนพวกมึง แต่มาเจอ 29 นี้ก่อนน่ะ หาอีกสักคดี”
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีรายงานว่าพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ออกหมายเรียกณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ ปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดฯ ในวันที่ 19 สิงหาคม เวลา 11.00 น.
โดยรายงานข่าวระบุว่า เนื่องจากการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบที่ราชประสงค์ ซึ่งเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผู้กำกับสน.ลุมพินี ได้ออกมาเปิดเผยว่า นายณัฐวุฒิ ได้ส่งทนายความมาขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม โดยให้เหตุผลว่าติดไปขึ้นศาล
ขณะที่นายปิยรัฐ ก็ได้เลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสูดและเข้มงวด ให้จำกัดการเคลื่อนย้ายเดินทาง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้นายณัฐวุฒิ และนายปิยรัฐ เลื่อนรับทราบข้อหาออกไปเป็นวันที่ 13 กันยายน
ด้านพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวด้วยว่า ได้ออกหมายเรียกผู้ชุมนุมตั้งแต่เดือน กรกฏาคม – สิงหาคม เพิ่มเติมอีก 118 หมาย โดยแบ่งเป็นแกนนำ 16 หมาย ข้อหาฝ่าฝืน “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบก, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง” ผู้ชุมนุม 102 หมาย ข้อหาฝ่าฝืน “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ”
ส่วนกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรง พนักงานสอบสวน ดำเนินการขอศาลออกหมายจับข้อหา “ครอบครองวัตถุระเบิด, วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง” โดยแกนนำ 16 หมายนั้น มี 14 คน เพราะบางคนมีหมายเรียกซ้ำมากกว่า 1 คดี เช่น โตโต้ ที่ถูกออกหมายเรียกถึง 2 สน.สองคดี
