หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เพิ่งเป็นประเด็นดังในโซเชียล สำหรับกรณี แอน จักรพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือเจเคเอ็น ได้ออกมาโพสต์ประกาศถึงร้านอาหารหลายแห่งที่ประสบปัญหาจากพิษเศรษฐกิจโควิด-19 ทำให้กิจการย่ำแย่
ตนเองจึงอยากช่วยด้วยการขอเข้าซื้อกิจการ จำนวน 10 แห่ง แต่ได้เกิดดราม่าตามมา เมื่อมีชาวเน็ตบางรายวิจารณ์ว่าผู้ประกอบการอาจไม่ได้อยากขายร้านอาหาร แต่อยากขายสินค้ามากกว่า การทำแบบนี้เป็นการเทกโอเวอร์กิจการ แต่ทำให้เหมือนทำบุญเหรอ เหมือนเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก รวยแล้วเลยซื้อเก็บไว้นั้น
จนแอน จักรพงษ์ ได้ประกาศจะฟ้องบุคคลที่มากล่าวหา หมิ่นประมาท โดยบางส่วนที่เข้ามาด่าทอและต่อว่า เป็นบุคคลที่หนุนม็อบ 3 นิ้ว รวมทั้งกลุ่มม็อบก็ยังวิจารณ์ถึงเรื่องนี้อย่างมากในช่วงนั้น
ล่าสุดก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้น เพราะมีบุคคลไม่หวังดี เข้ามาด่าทอแอน จักรพงษ์และพาลลามไปถึงครอบครัว ไล่เรียงด่าเรื่องต่าง ๆ ตั้งแต่สถานการณ์โควิด เรื่องชีวิตส่วนตัว บอกว่าแอน จักรพงษ์ไร้ความรับผิดชอบไปเที่ยวไม่กักตัว ไม่ยอมประกาศแจ้งข่าวกรณีที่มีพนักงานในบริษัทติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และใช้คำด่าเหยียดเพศสภาพด้วย
งานนี้แอน จักรพงษ์ เลยฟาดกลับแบบไม่ยั้ง ไม่ให้เสียชื่อเจ้าแม่วงการสื่อ โดยโพสต์ข้อความชี้แจงดังนี้ว่า มีคนจิตป่วยบางคน ไม่มีความสุขกับการที่ดิฉันลงภาพคู่กับสามีและลูกอีกแล้ว คราวนี้มาเป็นทีมใส่ร้ายป้ายสีแบบไม่มีเหตุผล จึงขอฟาดกลับเป็นจำนวนทั้งหมด 10 ข้อ ซึ่งน่าจะใช้การทวีตสี่ถึงห้าครั้งนะคะ จึงจะครบทุกข้อความ
โดยเราขอหยิบยกมาบางคำตอบ เช่น แอน จักรพงษ์ สะกดแบบนี้ให้ถูกก่อนนะคะ เราไม่เคยรู้จักกันเหตุไฉน ถึงเรียกคนที่คุณไม่เคยเจอส่วนตัวเลยด้วยซ้ำว่า อีกะเทยบัวใต้น้ำ ซึ่งถ้าดูจากโปรไฟล์คุณแล้ว ถ้าเป็นผู้ชายจริง ก็ควรต้องมีมารยาท สุภาพบุรุษ ไม่เรียกผู้หญิง หรือ สตรีข้ามเพศว่า อี หรือแทนตัวพวกเขาว่ากะเทย เพราะมันส่อสันดานความหยาบช้าค่ะ ถ้าคุณเข้าใจคำว่าบัวใต้น้ำ จริง สิ่งที่คุณทำอยู่มันคือการเป็นคนประเภทบัวใต้ดิน ซึ่งหมายถึงความต่ำสุดในพื้นปฐพีค่ะ
ใครปล่อยลูก น้องเป็น โควิดคะ? ใครเขาอยากจะเป็นกัน เอาข้อมูลมาจากไหน?! มโนเอง สรุปเองอีกแล้ว! หาเรื่องใส่ร้ายป้ายสี ไปเรื่อยมีความสุขหรือคะ? มีแต่เขาตรวจพบ แล้วก็รีบให้พักงาน เพราะด้วยความไม่ระวังของเจ้าตัวที่อาจติดจากสมาชิกคนในบ้าน พอเรารู้ก็ให้ทุกคนทั้งบริษัทไปตรวจทันที และกักตัวคนที่มีความเสี่ยงใกล้คนๆ นั้นเป็นเวลา 14 วัน
มีสติยังไม่พอ ยุคปัจจุบันต้องมีสตางค์เตรียมไว้ด้วย ก่อนที่จะโจมตีผู้อื่นทางวาจา อย่าได้แต่อ้างว่านี่คือสังคมประชาธิปไตย เพราะสำหรับคุณมันคือ อัตตาธิปไตย มันคือข้ออ้างสำหรับคนหยาบช้าจอมปลอม ที่ต้องการจะหาผลประโยชน์จากคนลำบากของสังคมให้เชื่อคุณในช่วงตกต่ำของการเมือง และชอบใช้จังหวะที่มีช่องว่างของคนจนและคนรวย ในการสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นมากที่สุด กับคนที่คุณอยากจะโจมตี…พอเถอะค่ะ การตลาดแบบนี้มันคือการตอกฝาโลงตัวเอง…ในที่สุดทุกคนมองออกว่าอะไรคืออะไร อยู่กันด้วยเหตุผล ใช้ชีวิตแบบปัญญาชนเพื่อลูกหลานของเรานะคะ
อย่างไรก็ตามการตอบกลับมือเกรียนคีย์บอร์ดคนล่าสุดนี้ ทำให้ต้องพูดถึงเรื่องครั้งก่อน ที่แอน จักรพงษ์ ฟาดกลับพวกม็อบสามกีบ และดำเนินคดีฟ้องหมิ่นประมาทไปแล้ว 11 ราย ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความไว้ด้วยว่า “คดีหมิ่นประมาทดิฉันตั้งแต่คราวที่แล้วเรื่อง ‘การซื้อกิจการร้านอาหาร’ โดยมีคนไร้การวิเคราะห์ใช้คำด่าทอไม่เหมาะสมใส่ร้ายป้ายสี พอรู้ความจริงก็ไม่แสดงความเสียใจแต่แถต่อ ทางทีมทนายดิฉันส่งฟ้องแล้วรวม 11 คน เตรียมรับหมายที่บ้านและเตรียมเงินได้เลยค่ะ” งานนี้ทำให้เห็นว่า แอน จักรพงษ์นั้นเอาจริงแน่นอน กับคนที่โพสต์แบบไม่คิด และด่าทอลามไปยันครอบครัว