สืบเนื่องจากกรณีที่คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้มีมติยกเลิกการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี พ.ศ.2554 ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์นั้น
ต่อมาปรากฎว่า นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในทำนองพาดพิงสถาบันอยู่หลายโพสต์ พร้อมท้าให้กระทรวงวัฒนธรรมส่งเอกสารหรือหนังสือมาชี้แจงเสียที ว่าปลดตนเองเพราะสาเหตุใด
ล่าสุดทางด้านนายวิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนซีไรต์ ได้โพสต์ถึงประเด็นดังกล่าวด้วย หลังมีคนบางกลุ่มมากล่าวหา ว่าตนเองนั้น รู้เห็นและมีส่วนร่วมที่ทำให้นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี โดนปลด อีกทั้งยังโยงข้อมูลมั่ว ว่าต้องปลดตนเองพ้นศิลปินแห่งชาติเช่นกัน ทั้ง ๆ ที่ตนเองนั้นไม่ได้รับตำแหน่งนี้
โดยนายวิมล ไทรนิ่มนวล ได้ชี้แจงไว้ดังนี้ว่า “จะถอดให้ดู เรื่องศิลปินแห่งชาติโดนถอดถอน ผมยังไม่เคยพูดอะไรสักคำ ก็ยังมีคนลากเข้าไปมีส่วนร่วม บางคนบอกต้องปลดวิมล ไทรนิ่มนวลด้วย เพราะเคยเข้าร่วมกับ พธม. และกปปส.
บอกไว้ตรงนี้ว่าไม่เคยไปร่วมม็อบไหนทั้งนั้น ในชีวิตเคยไปครั้งเดียวเมื่อ 14 ตุลาคม 2516
แต่ประกาศไว้เลยว่าเชียร์ม็อบทั้ง 2 ที่ว่ามา! เพราะไม่เอาพวกทรราชโกงชาติ และไม่ต้องการให้พวกมันโกงกินจนสิ้นชาติ ที่โกงไปนั่นก็มหาศาลแล้ว
เรื่องจะให้ถอดถอนผมด้วย ก็บอกให้ว่า ผมไม่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ! จะถอดถอนผมออกจากอะไร?
นอกจากถอดกางเกงผม ถ้าอยากถอดก็บอกไป ผมจะถอดให้ดู!
คนที่เคยเหยียดผมว่าไม่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ เพราะงานห่วย บางคนลงทุนป่าวประกาศในทีวีเลย!
ผมก็จะบอกไว้ด้วยว่า ผมไม่เคยส่ง “ประวัติและผลงาน” ไปเสนอรับรางวัลตามระเบียบของกระทรวงวัฒนธรรม ทั้งที่เพื่อนรุ่นเดียวได้กันเป็นไปสิบปียี่สิบปีแล้ว
แต่ปีนี้ผมจะเสนอ ผมเขียนอะไรบ้างเคยอ่านหรือไม่ อย่าคลั่งพวกคลั่งฝ่าย คลั่งประชาธิปไตยผูกขาดไว้เฉพาะฝ่าย จนต้องพาลลากคนอื่นเข้าไปเกี่ยวทุกเรื่อง”
อย่างไรก็ตามได้มีคนที่ติดตามเข้ามาคอมเม้นต์ด้วยว่า คุณวิมลน่าจะได้เป็นศิลปินแห่งชาติมาตั้งนานแล้ว ดีใจที่ปีนี้จะยื่นเรื่อง พร้อมทั้งบอกว่า คนที่โจมตีต้องหาข้อมูลด้วย ไม่ใช่มองประเด็นเคลื่อนไหวการเมืองแล้วจะกล่าวหาว่าคนนั้น คนนี้ไม่เหมาะสม เพราะกรณีของนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี มีชาวโซเชียลตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าตัวโพสต์พาดพิงหมิ่นเหม่ถึงสถาบันหลายครั้ง หนุนเรื่องยกเลิก 112 ชัดเจน ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันหลักของชาติ ไม่ใช่การโพสต์โจมตีรัฐบาลอย่างเดียว อย่างที่เจ้าตัวอ้าง จึงดูไม่เหมาะสม และสังคมมองว่าเป็นผลดีที่จะถูกถอดถอน