เป็นประเด็นให้ต้องตั้งคำถามกันอีกแล้วหลังจากเจ้าหน้าควบคุมตัว “4แกนนำม็อบ” แต่ปรากฏมีความเคลื่อนไหวออกมาถี่กับข้อความที่โพสต์จากเฟซบุ๊กเพนกวิน ที่ใช้ปลุกระดมผู้ชุมนุมข้างนอก ถามว่าทำไมผู้ต้องหาอยู่ในเรือนจำถึงสามารถโพสต์ได้หรือมีใครช่วยโพสต์???
ทั้งนี้ 11 กุมภาพันธ์ 2564 หลังจากที่เพนกวิน และพวกถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เนื่องจากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ปรากฏว่าในเฟซบุ๊กของเพนกวินได้โพสต์ข้อความไว้หลายครั้ง เช่น
“การขังครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่ไม่เกินความคาดหมาย แปลกใจมากที่ศาลขังเรา ด้วยเหตุผลว่ากระทำความผิดเรื่อย ๆ พิพากษาล่วงหน้าว่ากระทำความผิด และคดีทั้งหมดก็เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ เล่นทีเผลอ จากปกติให้ประกัน แต่เอามาไว้เรือนจำ สร้างสถานการณ์ แอบขังลืม การขังครั้งนี้อาจจะยาวนานได้ไม่มีกำหนด ตราบใดที่ข้างนอกยังสู้ต่อไป ข้างในก็ยังต่อสู้ด้วย เต็มเปี่ยมเหมือนเดิม”
และอีกข้อความต่อมาจากเฟซบุ๊ก เพนกวิน – พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak ระบุว่า
“ถึงประธานศาลฎีกา เรียนถาม? เราผิดด้วย ประการใด เราฆ่า เราปล้นใคร ใคร่รู้ ท่านขังเราเพราะไฉน วานบอก ฤาเหตุส่งเสียงสู้ อยู่ข้างเวียงวัง”
กระนั้นสิ่งที่เกิดคำถามตอกย้ำก็คือว่า ทำไมผู้ต้องหาเมื่อเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ทำไมยังสามารถใช้โทรศัพท์มือถือ หรือยังสามารถเล่นโซเชียลได้ เพราะการระบุถึงสถานที่ และวัน เดือน ปี ของเพนกวินเอง ที่โพสต์ไว้ในตอนท้ายข้อความว่า
“พริษฐ์ ชิวารักษ์
ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
11 กุมภาพันธ์ 2564”
นี่เองทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีนี้ ถึงประเด็นเสรีภาพในคุก แม้จะมีการชี้แจงจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุว่า การโพสต์ข้อความเพนกวินได้สั่งให้คนโพสต์ให้ แต่ก็นับว่าเรื่องนี้ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด และมีสิทธิ์ตั้งคำถามว่า แบบนี้คือเสรีภาพล้นคุกหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะต้องให้คำตอบที่ชัดเจนต่อประชาชนเพื่อให้คลายข้อสงสัย
ยิ่งย้อนไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2563 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางเข้าไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อตรวจสอบการเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง และการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ภายหลังที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางมาปักหลักปราศรัยเมื่อหลายวันก่อน โดยการเดินทางไปในครั้งนี้ของนายสมศักดิ์ ยังได้มีการพูดคุยกับแกนนำผู้ชุมนุม อย่าง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แต่การพูดคุยเป็นเรื่องอะไรยังไม่มีการเปิดเผย
ต่อมานายสมศักดิ์ กล่าวภายหลังมีการเผยแพร่ภาพตนเองเข้าไปพูดคุยกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมภายในเรือนจำ ว่า ไปติดตามการชุมนุมที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23-24 ต.ค. เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย จึงถือโอกาสเข้าไปเยี่ยมเยียนกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ทั้ง รุ้ง เพนกวิน และไมค์ จึงได้สอบถามถึงความเป็นอยู่ ซึ่งได้รับการร้องขอว่าอยากได้หนังสือ เพราะห่วงเรื่องการสอบ จึงได้ประสานไปยัง อธิการบดี และอาจารย์เจ้าของวิชา ซึ่งทราบว่าได้รับการส่งหนังสือตามความต้องการแล้ว ขณะที่ความเป็นอยู่ก็เป็นไปตามปกติ อาจจะไม่สะดวกสบายเท่ากับอยู่ด้านนอก
“ทุกคนยังสบายดี และไม่ได้พูดคุยให้ยุติการชุมนุมแต่อย่างใด แต่เป็นการไปเพื่อสอบถามสารทุกข์สุขดิบ พร้อมกันนี้แกนนำไม่ได้ร้องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราว เพราะทุกคนเข้าใจว่าตนเองไม่ได้มีอำนาจในส่วนนี้” นายสมศักดิ์ ระบุ
จากนั้นวันที่ 31 ตุลาคม 2563 นายพริษฐ์ กล่าวกับมวลชนช่วงหนึ่งระหว่างถูกควบคุมตัวที่สน.ประชาชื่นเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าไปพบตนถึงภายในเรือนจำ โดยบอกว่าเป็นเเขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“นายสมศักดิ์ ถามผมว่า ทำไมนายกฯต้องลาออก ขอให้เเก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียวก่อนได้หรือไม่ ผมยืนยันไปแล้วว่าไม่ได้ และ ฝากให้นายสมศักดิ์ ไปบอกนายกฯ ให้ลาออกเท่านั้น” นายพริษฐ์ กล่าว
เช่นนี้เองยิ่งก่อให้เกิดข้อสงสัย ว่าแกนนำม็อบมีอภิสิทธิ์ชนในเรือนจำ ด้วยเหตุว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดใดกับรัฐมนตรีหรือไม่ และบางคำถามถึงขนาดตั้งข้อสังเกตุว่า แท้จริงแล้ว พวกเขาเหล่านี้เป็นพวกเดียวกัน ??? ซึ่งเรื่องนี้ในความสงสัยนี้ ตัวนายสมศักดิ์ หรือ นายอายุตม์ ต้องตอบคำถาม คลายข้อสงสัยให้สังคมได้รับทราบถึงข้อเท็จจริง!!!
