อย่าทำร้ายสื่อ!? “โบว์ ณัฏฐา” เผยคลิป นักข่าวโดนประทัดยักษ์แก้วหูฉีก ซัดกลับสามกีบ หลักฐานชัดเจน อย่าแถว่าตร.รุนแรง!!

2881

จากกรณีที่มีการชุมนุมของม็อบ 3 นิ้ว เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยจุดปะทะหลักยังคงเป็นพื้นที่แยกดินแดง จนต่อมามีรายงานช่วงเวลาประมาณ 17.30 น.​ ผู้ชุมนุมเริ่มรวมตัวบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่ขี่มอเตอร์ไซค์ ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงตั้งแนวป้องกันบริเวณด้านหน้า รพ.ทหารผ่านศึก

 

ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุม บางส่วนปาประทัดเข้ามาทางแนวเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้จีโน่ฉีดน้ำ ตำรวจควบคุมฝูงชนเริ่มกระชับพื้นที่ โดยใช้จีโน่เคลื่อนเข้าหากลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมยิงแก๊สน้ำตา และประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมแยกย้าย ขณะผู้ชุมนุมใช้การปาประทัด ยิงหัวน็อตโต้ตอบ⁣

กลุ่มผู้ชุมนุมต่างขี่มอเตอร์ไซค์หนีกลับไปทางแยกดินแดงหลังจีโน่ฉีดน้ำสลายชุมนุม ก่อนที่บางส่วนจะกลับเข้ามาในพื้นที่อีกครั้งหลังจีโน่หยุดฉีด ทำให้ทางเจ้าหน้าที่คฝ.ต้องกระชับพื้นที่หนักขึ้น ทั้งยิงแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง จนสามารถสลายการชุมนุมได้

ล่าสุดในทวิตเตอร์ของ โบว์ ณัฏฐา ได้ทวีตข้อความ ระบุว่า เกือบสองทุ่ม นักข่าวชายโดนระเบิดปิงปองมาระเบิดใกล้ศีรษะฝั่งขวา หูดับ กำลังไปโรงพยาบาล มีคนบอกว่าไม่น่าใช่ระเบิดปิงปอง อาจเป็นประทัดไข่หรือพลุนะคะ ไม่สามารถยืนยันได้เหมือนกัน หลังเกิดเหตุที่หมวกนิรภัยสีขาวที่สวมอยู่มีคราบเขม่าสีดำติดอยู่เต็ม ดูเหมือนผงถ่านค่ะ ในคลิปนี้เจ้าตัวเป็นคนถือกล้องขณะกำลังเดินไปหลบที่ปั๊มเชลล์ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ต่อสื่อมวลชน

ต่อมาเรื่องนี้เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อนักข่าวที่ลงพื้นที่ ได้ทวีตข้อความเสริมประเด็นนี้ว่า คลิปนี้บึ้มสนั่น คาดว่า เป็นจุดที่นักข่าว เเก้วหูฉีก เพราะปะทัดยักษ์ หลงเข้ามาตรงจุดที่นักข่าวกำลังเดินเกาะกลุ่มกัน 5-6 คน

ขณะที่ โบว์ ณัฏฐา ได้พยายามจี้ประเด็นดังกล่าวอีกว่า “ขอความรู้ความแตกต่างระหว่างไปป์บอมบ์ ระเบิดปิงปอง ประทัดไข่ ประทัดยักษ์ พลุไฟ พลุควัน ระเบิดขวด ฯลฯ หน่อยค่ะ อานุภาพ ราคา สารประกอบ ต่างกันยังไงบ้าง” เนื่องจากมีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 รายด้วย

มีสื่อไหนรวบรวมความเสียหายรายวันไว้มั้ยคะ เมื่อวานทางจนท.แจ้งสื่อว่ามีตำรวจบาดเจ็บ 7 นายจากไปป์บอมบ์ ทางฝั่งผู้ชุมนุมเป็นอย่างไรบ้าง อยากให้มีข้อมูลภาพรวมด้วย เท่าที่ผ่านมาเห็นแต่แยกกันรายงาน ขึ้นอยู่กับว่าใครอยู่ฝั่งไหน สังคมขาดข้อเท็จจริงในภาพรวม