จากกรณีที่มีกระแสตั้งคำถามว่าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ
โดยต่อมาทางด้านของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยว่า “เป็นเงื่อนไขทางการเมืองที่ซับซ้อน ถ้าพรรคพลังประชารัฐยังอยู่ในระบอบประยุทธ์อยู่ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะไปจับมือด้วย แต่ถ้าเขาปรับกลไกการบริหารมาทางประชาธิปไตยมากขึ้น ไม่ยึดระบอบประยุทธ์ ก็อาจจะคุยกันได้ แต่ถ้ายังเป็นอยู่เหมือนในปัจจุบันที่มีหัวหน้าพรรคเขาเป็นแกนนำของระบอบประยุทธ์ ไม่มีทางเป็นไปได้”
และเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร
โดยทั้งพรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีร่วมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังมวลชนไทย เห็นถึงความบกพร่องของรัฐบาลในปีที่ผ่านมา ทั้งการบริหารวัคซีน การจัดการสถานการแพร่ระบาดโควิด-19 และการบริหารเศรษฐกิจ พรรคฝ่ายค้านจึงมีความจำเป็นต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ จำนวน 6 คน ได้แก่
1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
2. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข
3. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม
4. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์
5. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน
6 .นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ขณะที่ในส่วนพรรคก้าวไกล กำลังพิจารณาเพิ่มเติมชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ อีก 1 ชื่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐาน แต่ไม่บอกว่าเป็นข้อมูลเรื่องใด เพราะกลัวความลับรั่วไหล บอกเพียงว่าไม่ใช่เรื่องภายในกระทรวงเกษตรฯ และไม่ใช่เรื่องที่เคยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว เป็นข้อมูลใหม่ ก่อนจะสรุปรายชื่อทั้งหมดยื่นต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร อีกครั้ง ซึ่งประเด็นดังกล่าว ทำให้ทางพรรคก้าวไกลออกมาตอบโต้เพื่อไทย และระบุถึงความไม่ชอบมาพากล ที่ไม่ปรากฎชื่อของนายธรรมนัส และพลเอกประวิตร
ทำให้ทางด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาทวีตข้อความระบุบว่า “ถ้าทำงานการเมืองแบบเสนอความเห็นแล้วแพ้ในที่ประชุมก็ออกมาแสดงความเห็นกับแฟนคลับ..พูดเอาดีใส่ตน ทำลายคนอื่น…อย่างนี้ทำงานร่วมกันยากครับ” จนกลายเป็นประเด็นฮือฮาในโลกออนไลน์ ว่าทั้ง 2 พรรค คือเพื่อไทยและก้าวไกล มีความแตกหักชัดเจน
จนล่าสุดทางด้านนายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanapol Eawsakul ว่า ความกระจอกของพวกเดือนตุลาที่ไปทำงานให้ทักษิณ คือการปล่อยให้ทักษิณ ไปเลือก สมัคร สุนทรเวช เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชาชน
ด้วยความคิดตื้น ๆ แต่เพียงว่า จะทำให้ข้อหาล้มเจ้า ที่ฝ่ายพันธมิตรกล่าวหาทักษิณนั้นหายไป
(แต่ก็ไม่ช่วยอะไรเพราะสุดท้ายฝ่ายเจ้าก็ถีบหัวส่งสมัครและยุบพรรคพลังประชาชนอยู่ดี )
ที่น่าผิดหวังกว่านั้น คือ คนเดือนตุลาพวกนี้ก็ไปแก้ต่างให้สมัคร ว่ามาตามกระบวนการประชาธิปไตย แล้วพวกเขาก็ไปงานรำลึก 6 ตุลาทุกปี อย่างไรก็ตามปรากฎว่า ในเวลาต่อมานายธนาพล อิ๋วสกุล ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกจากเฟซบุ๊กแล้ว