สามกีบผวา! มือปาประทัดยักษ์พลาด ติดเชื้อโควิด อยู่กลางม็อบ การ์ดตกไม่สวมแมสก์ หวั่นเป็นคลัสเตอร์ใหม่!?

1964

สามกีบผวา! มือปาประทัดยักษ์พลาด ติดเชื้อโควิด อยู่กลางม็อบ การ์ดตกไม่สวมแมสก์ หวั่นเป็นคลัสเตอร์ใหม่!?

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (11 สิงหาคม 64) กลุ่มทะลุฟ้าได้มีการประกาศนัดหมายที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นมวลชนทยอยมาถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยการชุมนุมในครั้งนี้ ได้มีผู้ชุมนุมรายหนึ่งในเสื้อช็อปอาชีวะกำลังจุดปะทัดยักษ์เตรียมปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณแยกดินแดง แต่เกิดพลาดระเบิดใส่มือตัวเองจนนิ้วมือขาดรุ่งริ่ง เลือดไหลนอง เมื่อเข้ารับการรักษาและทางรพ.ได้ทำการตรวจคัดกรองโควิด19 ปรากฎว่า ผู้ชุมนุมคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด19 ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

ล่าสุดวันนี้ (12 สิงหาคม 64) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่ามีการตรวจพบข่าวปลอมเพิ่มเติม 1 กรณี คือ กรณีตำรวจเอาประทัดยักษ์ยัดใส่มือม็อบ บังคับให้กำประทัดจนแตกใส่มือ นั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม

โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า วันที่ 11 สิงหาคม 2564 ได้มีผู้ชุมนุมชื่อว่า ม็อบทะลุฟ้า มาชุมนุมกันที่บริเวณ แยกดินแดง เขตดินแดง กทม. ได้มี ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 14 ปีเศษ สวมใส่เสื้อช็อปอาชีวะได้จุดประทัดยักษ์ แต่เกิดพลาดระเบิดใส่มือข้างซ้ายของตนเองทำให้ได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เอาประทัดยักษ์ยัดใส่มือแต่อย่างใด ปัจจุบันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบที่โรงพยาบาลฯพบว่าได้นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU และแพทย์ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ผลการตรวจเบื้องต้นพบว่าติดเชื้อโควิด – 19

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.metro.police.go.th/ หรือโทร. 0-2282-8209

สำหรับบทสรุปของเรื่องนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เอาประทัดยักษ์ยัดใส่มือแต่อย่างใด หนึ่งในผู้ชุมนุมเป็นผู้จุดประทัดยักษ์เอง แต่เกิดพลาดระเบิดใส่มือข้างซ้ายของตนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ปัจจุบันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี และรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป