อ.ไชยันต์ ถอดรหัส “ม็อบบุกวัง” ขณะปิยบุตรอยู่ฝรั่งเศส? เจ้าตัวถึงกับพล่าน สติหลุด! ขึ้นเหี้_อะไรกับกรูนักหนา เลิกนับถือ!!

4520

อ.ไชยันต์ ถอดรหัส “ม็อบบุกวัง” ขณะปิยบุตรอยู่ฝรั่งเศส? เจ้าตัวถึงกับพล่าน สติหลุด! ขึ้นเหี้_อะไรกับกรูนักหนา เลิกนับถือ!!

จากกรณีที่ที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้ประกาศนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 7 สิงหาคม ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนที่จะเคลื่อนพลไปพระบรมมหาราชวัง โดยมีกลุ่มที่เป็นแนวร่วมม็อบ 7 สิงหา ได้แก่ คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG, ขบวนการริมสระ, เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย, ทะลุฟ้า,
เยาวชนปลดแอก,ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย,สหภาพคนทำงาน, SUPPORTER THAILAND

ต่อมาทางด้าน ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร แห่งภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn กล่าวถึงการนัดชุมนุมของเพจเยาวชนปลดแอกในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ และเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมปลุกระดมม็อบวันที่ 10 สิงหาคมนี้ว่า ทำไมต้อง 7 สิงหา ? และ 10 สิงหา ?

วันที่ 7 สิงหา 2508 เป็นวันที่กองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ปะทะด้วยกำลังอาวุธปืนเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นครั้งแรกที่บ้านนาบัว อ.เรณูนคร จังหวัดนครพนม เป็นข่าวใหญ่ของประเทศในเวลานั้น

ดังนั้น การที่ในวันที่ 1 สิงหาที่ผ่านมา เพนกวิ้น ได้ปราศัยว่า “..เรามาทวงชื่อถนน วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นของ “เจ้า” ไม่ให้เป็นของเจ้าอีกต่อไป .. มันเป็นถนนของประชาชน ของราษฏร” จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแบบปากพาไปในขณะที่กำลังปลุกระดมอยู่บนถนนวิภาวดี เพราะในปี พ.ศ. 2520 พระองค์เจ้าเจ้าวิภาวดี ทรงถูกยิง  ขณะเสด็จไปรับตำรวจตระเวนชายแดนที่บาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด ที่ ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ผู้ก่อการร้ายได้ระดมยิงมาที่เฮลิคอปเตอร์ที่ประทับ การที่ เพนกวิน กล่าวเช่นนั้น เท่ากับให้ความชอบธรรมกับผู้ก่อการร้าย และ นัดชุมนุม “บุกวัง” ในวันเสาร์ที่ 7 สิงหา 2564

ทำไมต้อง “บุกวัง” และมีนัด “10 สิงหา 2564” เพราะ ย้อนกลับไปฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1792 “การก่อการปฏิวัติโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ หรืออีกนัยหนึ่งคือฉีกรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1791 เกิดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม กลุ่มปฏิวัติได้จัดตั้งรัฐบาลคณะปฏิวัติแห่งปารีสขึ้น และยื่นกำหนดเส้นตายให้สภานิติบัญญัติประกาศยุติสถานะความเป็นกษัตริย์ของพระเจ้าหลุยส์ฯเป็นการชั่วคราว

แต่เมื่อสภาไม่ปฏิบัติตาม กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ใช้กำลังเข้าจู่โจมพระราชวังและได้เกิดการจลาจลขึ้น  พระเจ้าหลุยส์ฯและพระราชินีทรงเสด็จไปยังสภาเพื่อความปลอดภัย สภาไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องทำตามความต้องการของคณะปฏิวัติ ออกประกาศยุติสถานะของพระเจ้าหลุยส์ฯ และต่อมา สภาได้ตกอยู่ในสภาพที่หมดอำนาจใดๆ และรัฐบาลคณะปฏิวัติได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสภาแห่งชาติ (National Convention) ที่จะทำการพิพากษาพระเจ้าหลุยส์ฯ และทำการร่างรัฐธรรมนูญที่ให้ฝรั่งเศสปกครองในระบอบสาธารณรัฐ

และวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 1792 ถือเป็นการปฏิวัติของฝรั่งเศสครั้งที่สองต่อจากการปฏิวัติ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1789 และเป็นการสิ้นสุดสถาบันพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสครั้งที่หนึ่ง” (ดูบทความในคอมเมนท์) ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล ได้บรรยายพิเศษ #ตลาดวิชาอนาคตใหม่ ของ Common School ในหัวข้อ “บทบาทของสมาชิกสภาแห่งชาติในการกรุยทางปฏิวัติ 1789″ พูดถึงความสำคัญของสมาชิกสภาในการเป็นจุดชี่ขาดของการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่หรือปฏิวัติ และกล่าวถึงการที่ประชาชนบุกพระราชวังตุยเลอรี อันนำมาซึ่ง การปฏิวัติฝรั่งเศสครั้งที่ 2 และการสิ้นสุดของสถาบันกษัตริย์ฝรั่งเศสครั้งแรก

โดยอาจารย์ปิยบุตรบรรยายจากฝรั่งเศส เพราะเดินทางไปเยี่ยมครอบครัว ทำไมต้องไปช่วงนี้ และทำไมจึงเกิดการวางแผน “บุกวัง” ช่วงที่เขาไม่อยู่ในประเทศไทย ?

เลนิน ผู้นำปฏิวัติรัสเซีย เลนินเป็นนักกฎหมาย แต่แทนที่จะประกอบอาชีพทางกฎหมาย กลับมีส่วนรวมในความพยายามโฆษณาชวนเชื่อเพื่อการปฏิวัติ ต่อมา เขาได้ย้ายไปอยู่ที่ฟินแลนด์ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เขาได้ท่องเที่ยวไปในยุโรปต่อและร่วมในการประชุมและกิจกรรมของพวกสังคมนิยมในหลายๆแห่ง และต่อมาได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในปารีส ร่วมกับสมาชิกบอลเชวิกคนอื่น ๆ ที่ถูกเนรเทศมา และ หลังจากที่ซาร์นิโคลัสที่ 2 ถูกโค่นล้ม เลนินจึงเดินทางจากสวิตเซอร์แลนด์กลับไปรัสเซีย และมีบทบาทสำคัญในขบวนการบอลเชวิก

อายะตุลลอฮ์ โคมัยนี แห่งอิหร่าน ผู้นำการปฏิวัติที่นำไปสู่การล้มล้างพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 1978 ตอนที่เกิดความวุ่นวายก่อนการปฏิวัติ อยาตอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ โคไมนี ถูกควบคุมตัวอย่างใกล้ชิดในฐานะผู้ลี้ภัยในเมืองนาจาฟ ซึ่งเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมชีอะห์ในอิรัก และในเวลาต่อมา พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ได้ทรงขอให้ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำอิรักในขณะนั้นขับไล่เขาออกจากประเทศ

นั่นเป็นการตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง อยาตอลเลาะห์ โคไมนี บินไปฝรั่งเศสและมีอิสระที่จะสื่อสารกับคนทั้งโลก ด้วยความเด็ดขาดและปฏิเสธที่จะประนีประนอม เขาได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

การเดินทางออกจากประเทศในเดือน ม.ค. 1979 ของพระเจ้าชาห์ เปิดทางให้ อยาตอลเลาะห์ โคไมนี เดินทางกลับประเทศเพื่อโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ อยาตอลเลาะห์ โคไมนี  ใช้โอกาสนั้นบินกลับไปอิหร่าน ในขณะที่กำลังบินกลับนั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของโคไมนี ประกาศว่า กองทัพอากาศอิหร่านซึ่งยังจงรักภักดีต่อพระเจ้าชาห์อยู่ วางแผนจะโจมตีเครื่องบินทันทีที่เข้าสู่เขตน่านฟ้าอิหร่าน หลังจากบินวนอยู่เหนือสนามบินอยู่นาน ขณะการเจรจากับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินดำเนินไป เครื่องบินก็ได้ลงจอดในที่สุด มีผู้ประเมินว่า จำนวนคนที่มาต้อนรับ โคไมนี ในวันนั้นอาจจะมีจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์

จากนั้นก็มีการจัดตั้งสาธารณรัฐอิสลามในอิหร่าน และการต่อต้านความคิดเสรีของชาติตะวันตกก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้น การวางแผนทั้งหมดเกิดขึ้น ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส!! ผมเชื่อว่า ทุกคนคงประเมินเรื่องราวที่กำลังเกิดหรือจะเกิดขึ้นในบ้านเราได้อย่างแน่นอน เพียง ตัวละคร ที่จะกลับแบบ เลนิน หรือ โคมัยนี มีมากกว่า 1 !

ในขณะเดียวกัน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่ขณะนี้อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้โพสต์ข้อความตอบโต้ไปถึง อ.ไชยันต์ โดยระบุข้อความว่า [สุดยอดแห่งการเชื่อมโยง คิดเป็นตุเป็นตะ ของไชยันต์ ไชยพร]

ผมมีภรรยาเป็นคนฝรั่งเศส คบกันมาเกือบ 10 ปี แต่งงานครบรอบ 5 ปี วันนี้พอดี ภรรยาผมเดินทางรับทุนหลังปริญญาเอกไปหลายแห่งตั้งแต่เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และพึ่งได้รับตำแหน่งอาจารย์ที่ปารีส จึงเดินทางกลับไปตั้งถิ่นฐานถาวรที่บ้านเกิด ช่วงหลังๆ ผมเอง แทบไม่ได้เจอภรรยา ปีหนึ่ง 2 ครั้ง เต็มที่ 3 ครั้ง ยิ่งพอเกิดวิกฤต Covid-19 ขึ้นมา ยิ่งเดินทางลำบาก จนฝรั่งเศสพึ่งปลดล็อค ให้คนต่างชาติเข้าประเทศได้ ใครยังไม่ฉีดวัคซีน ก็เข้ามาได้ หากมีเหตุผลทางครอบครัว ผมจึงมีโอกาสเดินทางมาช่วงนี้
ในช่วงปกติ ผมก็มาฝรั่งเศสเป็นประจำ ปีละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม
ส่วนเรื่องเขียนงานเกี่ยวกับปฏิวัติฝรั่งเศส เรื่องปฏิวัติที่ต่างๆทั่วโลก เรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องประเทศฝรั่งเศส ผมก็เขียนประจำ โพสลงเพจส่วนตัวบ่อยมาก เมื่อก่อน ก็มีคอลัมน์ในมติชนสุดสัปดาห์ด้วย พอมาเป็นนักการเมือง ก็ยังเขียนเล่าลงเพจสาธารณะอยู่ ก็เลยไม่ทราบว่า คนแบบอาจารย์ไชยันต์และพวก จะอะไรกันนักกันหนากับผม
ถ้าจะพูดภาษาบ้านๆที่ทนความรำคาญไม่ไหว คงพูดว่า… “พวกมึงเป็นเหี้ยอะไรกับกูนักหนา แค่กูเดินทางมาฝรั่งเศส มาเจอเมีย แค่เนี้ย” อย่าอ่อนไหวกันนักเลยครับ โตเป็นผู้ใหญ่ ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่บ้าง ให้เยาวชนคนรุ่นหลังเขาเคารพกันบ้าง ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอาจารย์ไชยันต์กับนักวิชาการอีกฝ่าย ผมเอง ยังคิดเสมอว่า ผมน่าจะเป็นคนที่สนทนาแลกเปลี่ยนกับอาจารย์ได้ สัมภาษณ์สื่อที่มักคุ้นกับอาจารย์เมื่อหลายเดือนก่อน ผมยังถามไถ่ถึง และยังบอกว่า พร้อมจัดวงพูดคุยกันกับแกเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ไม่นึกว่า อาจารย์ไชยันต์จะ “ไปไกล” ขนาดนี้ ผูกโยงเรื่อง เป็นตุเป็นตะ อ่านแล้ว คิดว่า ดาวสยาม ยานเกราะ กลับมาเกิดใหม่
ไม่รู้ว่ามีวัตถุประสงค์อะไร คุณธรรมน้ำมิตรในหมู่นักวิชาการ ไม่ต้องมีกันอีกแล้วหรือ ถึงขั้นต้องกุเรื่องทำลายผม ปลุกระดมความเกลียดชังต่อผม บ้ากันขนาดนี้ คงเคารพนับถือกันต่อไปไม่ไหว ถ้าหากอ่านข้อเสนอผม แล้วคิดดีๆเสียบ้าง สมองแบบไชยันต์และพวก ก็จะรู้ว่า การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ คือ ทางออกจริงๆ แต่กลับไม่พิจารณา ไม่สนทนา สาดน่ำมันเข้าใส่ ให้ไฟมันแรงกว่าเดิม ก็ทำกันแบบนี้แหละ ถึงหาทางลงกันไม่ได้เสียที ถ้าผมใช้แท็คติกแบบไชยันต์และพวกบ้าง ก็คงค้องบอกว่า หากสถานการณ์ในประเทศไทยลื่นไถลไปไกลจนไม่มีใครคาดคิด ไม่มีใครควบคุมได้ ก็เพราะ คนแบบไชยันต์นั่นเอง
โดยนายปิยบุตร ได้โพสต์ข้อความในคอมเม้นท์ด้วยว่า ไหนๆ ไชยันต์ ไชยพร เชื่อมโยงให้แบบนี้ เพื่อไม่ให้ไชยันต์เสียเที่ยว เดี๋ยววันที่ 10 สิงหาคม ผมไลฟ์สดเล่าเรื่อง ประชาชนปารีสบุกวังตุยเลอรี่ จนล้มกษัตริย์ เป็นสาธารณรัฐ ให้ทุกๆคนได้ฟังเลยละกัน