จากกรณีกลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้โพสต์แบนเนอร์นัดการชุมนุมวันที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยมีการระบุถึงสถานที่ไป ทำให้หลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตถึงการจะกระทำเรื่องราวดังกล่าว รวมทั้งอานนท์ นำภา ที่ปราศรัยส่งสัญญาณปลดแอกแล้วนำไปเผาข้างกำแพงวังนั้น
ทั้งนี้โดยข้อความที่ เฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก ได้เผยแพร่ มีข้อความระบุว่า อย่าปล่อยให้พวกมันเสวยสุขบนความทุกข์ของพวกเรา 7 สิงหานี้ เวลา 14:00 น. พบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เคลื่อนพลไปพระบรมมหาราชวัง
ล่าสุดวันนี้ 5 สิงหาคม 2564 เสกสรร ชัยเจริญ หรือหนุ่มเสก อตีตนักร้องนักแสดง ยุค 80 ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นต่อกรณีม็อบนัดไปพระบรมมหาราชวัง ว่า
“กราบเรียนเพื่อนๆในเฟซบุ๊คของผมทุกๆท่านท่านใดที่ไม่ถูกใจในการโพสต์ของผม หรือไม่ชอบผมสามารถลบผมออกจากการเป็นเพื่อนได้เลยโดยไม่ต้องเกรงใจครับ เพราะจุดยืนในชีวิตของผมตั้งแต่เกิดมา มีแต่ความจงรักภักดีต่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ไม่มีเปลี่ยนแปลง ลบผมจากการเป็นเพื่อนได้เลยนะครับถ้าท่านไม่ชอบผมไม่โกรธเคืองกันครับ”
นอกจากนี้ หนุ่มเสก ยังได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอีกหนึ่งข้อความสั้นๆว่า รวมพลังปกป้องพระบรมมหาราชวัง
ขณะที่วันเดียวกันนี้ นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้แสดงความเห็นในเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ถึงกรณีม็อบนัดชุมนุมเคลื่อนไหวไปยังพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ว่า “ม็อบ7สิงหา ที่จะไปที่พระบรมมหาราชวัง ได้ทำลายการเคลื่อนคาร์ม็อบพินาศสิัน! ทำลายโดยมีแผน หรือโดยมั่ว? แต่ผลคือทั้งแกนนำและม็อบ 7 สิงหา จบไม่สวย!”
ด้าน ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงม็อบดังกล่าว ในหัวข้อ”กูรูมืดและองค์กรกูรูมืด” โดยมีเนื้อหาระบุว่า
กูรูมืดและองค์กรกูรูมืดมีลักษณะร่วมกันอยู่ 4 อย่างคือ “หลอกลวง ครอบงำ ควบคุม และครอบครอง”อย่างแรก คือ “โกหก หลอกลวง” เงื่อนไขนี้มาก่อนเลย ถ้าหลอกลวงด้วยเฟคนิวส์ได้แล้ว ที่ตามมาอย่างที่สอง คือ “การครอบงำความคิดของสาวก” ที่หลงเชื่ออย่างเนียนๆ แทบไม่รู้ตัว จนถลำลึกมากยิ่งขึ้นทุกที พอครอบงำความคิดจนเกิดอุปทานหมู่ หลงเชื่อตามๆกัน โดยมีกลไกหลอกลวง โฆษณาชวนเชื่อ ตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดเวลา ก็จะมาสู่อย่างที่สามคือ “การควบคุมพฤติกรรมของสาวก” ทั้งทางตรงและทางอ้อม
โดยที่ในขั้นที่สี่หรืออย่างสุดท้ายคือ “การครอบครองร่างกายและชีวิตจิตใจ” รวมทั้งจิตวิญญาณของผู้นั้นอย่างสิ้นเชิง จะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ จะให้ก่อการร้ายทำร้ายผู้บริสุทธิ์ หรือจะให้ฆ่าตัวตายรวมหมู่ก็ยังได้
กูรูมืดและองค์กรกูรูมืดจึงมีหลายระดับก็จริง แต่แค่หลอกลวงด้วยเฟคนิวส์ก็เข้าสู่วิถีของกูรูมืดเต็มตัวแล้ว แปลกแต่จริงที่องค์กรกูรูมืด บางครั้งก็เป็นขบวนการทางการเมืองอย่างขบวนการนปช.องค์กรคนเสื้อแดงในอดีต หรือขบวนการล้มเจ้าชูสามนิ้วในปัจจุบัน … ไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กรศาสนาเสมอไป
สังคมที่ปล่อยให้เฟคนิวส์อาละวาด โดยที่ทางการอ่อนแอทำอะไรไม่ได้เลย คือสังคมที่อ่อนแอทางสติ อ่อนแอทางปัญญาความคิดวิเคราะห์ และอ่อนแอทางจิตวิญญาณ คนยุคนี้ ต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติและไม่ประมาท เพราะกูรูมืดแฝงอยู่ในทุกวงการ
ในทางการเงิน กูรูมืดคือเจ้าพ่อแชร์ลูกโซ่ หรือ เทรดเดอร์โฟโต้ช็อปที่สร้างภาพว่าเป็นเทพ
ในทางการเมือง กูรูมืดคือแกนนำในขบวนการทางการเมืองที่สร้างวาทกรรมปลุกปั่นให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังประเทศตนเองและสถาบันหลักๆของประเทศอาฆาตอย่างรุนแรง
7 สิงหาคมนี้ คนพวกนี้จะออกอาละวาดอีกครา จงอย่าให้ชีวิตของตนเองและครอบครัวต้องพังพินาศเพราะหลวมตัวหลงไปเชื่อกูรูมืดและองค์กรกูรูมืดเป็นอันขาด
ถ้าใช้หลักเกณฑ์ 4 ข้อ เรื่อง “หลอกลวง ครอบงำ ควบคุม ครอบครอง” ที่ผมยกมาข้างต้นจะช่วยแยกแยะได้ว่าใครเป็นกูรูมืดและองค์กรกูรูมืด