งานเข้าชุดใหญ่!! “4 สส.ก้าวไกล” โดนร้องสอบจริยธรรม ใช้ตำแหน่งประกันผู้ต้องหา 112 ซ้ำเข้าร่วมม็อบ!?

2139

สืบเนื่องจากกรณีที่ปรากฎภาพของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โผล่สังเกตการณ์ในม็อบ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา และยังเดินหน้าใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาคดี 112 หลายครั้ง รวมทั้งยังมีส.ส.ในพรรคเดียวกันอีกหลายคน ที่กระทำการในลักษณะนี้

ล่าสุดทางด้านเครือข่ายพสกนิกรปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ นำโดยนายอัครวุธ บุรณพนธ์ หรือ เต้ เครือข่ายกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานของประธานสภาฯ

โดยนายอัครวุธ กล่าวว่า ขอให้ตรวจสอบนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หลังจากเข้าร่วมการชุมนุมของมวลชน และไลฟ์สดในพื้นที่ชุมนุม ซึ่งเข้าข่ายการฝ่าฝืนพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ทั้งนี้การกระทำของนายรังสิมันต์ ยังพบว่ามีการไลฟ์สดให้ประชาชนตำหนิสถาบันเบื้องสูง ทั้งนี้ยังพบการกระทำของนายทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล และ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล ที่ใช้ตำแหน่งส.ส. ประกันตัวแกนนำม็อบคณะราษฎร ที่เข้าข่ายการกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมถึงกรณีของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ที่เข้าร่วมการชุมนุมร่วมคาร์ม็อบเมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม

“ผมขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของส.ส. ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม เข้าข่าย ส่องสุม มั่วสุม จัดม็อบเย้ยกฎหมาย ท้าทาย ผบ.ตร. ขอให้ตรวจสอบจริยธรรม”


ขณะที่นายแทนคุณ กล่าวว่าจะนำหนังสือเพื่อนำเรียนนายชวนต่อไป ทั้งนี้คณะทำงานได้ติดตามการชุมนุม มองว่าในสถานการณ์ปัจจุบันควรระมัดระวังแพร่ระบาดโควิด-19 และสิ่งสำคัญคือต้องมีส่วนปกป้องสถาบัน ทั้งนี้ปรากฎว่าการชุมนุมที่ผ่านมา มีการจาบจ้วง ละเมิดสถาบันจำนวนมาก ซึ่งฝ่ายคณะทำงานติดตามใกล้ชิดและไม่สบายใจ ดังนั้นจะได้รวบรวมหลักฐานที่ยื่นและประจักษ์พยานจากโซเชียลช่องทางอื่นๆ เพื่อดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ในเพจเฟซบุ๊กศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ. ยังโพสต์ข้อความ ระบุด้วยว่า #พสกนิกรปกป้องสถาบันพระมหากษัติย์ ยื่นหนังสือถึงท่านประธานชวน หลีกภัย ผ่านทางคุณอี้ แทนคุณ เพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรมของส.ส.พรรคก้าวไกล ที่เข้าร่วมในม็อบ 18 กรกฎาคม ตามกระบวนการเพื่อลงโทษ หากพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดจริง