สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2564 ที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อก้าวไกล ได้เปิดเผยถึงข้อสั่งการถึงรัฐบาลในการบริหารจัดการวัคซีนและการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า สำหรับการส่งมอบวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้าที่มีกำหนดต้องส่งมอบในเดือน มิ.ย. ที่ 6,333,000 โดส
จากข้อมูลที่ปรากฏในระบบติดตามตรวจสอบย้อนกลับที่จัดทำขึ้นโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พบว่ามีการส่งมอบเพียง 5,371,100 โดส เท่านั้น ยังขาดการส่งมอบอีก 961,900 โดส
“ซึ่งยอดที่ขาดส่งนี้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะต้องไปเร่งติดตามมาให้ได้ เพราะนี่หมายถึงเกือบ 1 ล้านชีวิตของประชาชนคนไทย ซึ่งจากขีดความสามารถในการฉีดที่โรงพยาบาลต่าง ๆ ทำได้ 961,900 โดส นั้นใช้เวลาเพียงแค่ 3 วัน เท่านั้น ก็จะช่วยชีวิตประชาชนคนไทยเกือบ 1 ล้านคน ให้ปลอดภัยได้” ทั้งนี้ที่ผ่านมานายวิโรจน์ เป็นตัวตั้งตัวตี ที่จะขอให้มีการเปิดสัญญาที่บริษัทแอสตร้าฯ ทำกับบริษัทสยามไบโอฯ และมีการพาดพิงไปถึงสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ว่ามีส่วนในการเป็นคู่สัญญา ของการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์นั้น
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้ออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้ ระบุว่า
แถลงการณ์สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ตามที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้ส่งหนังสือขอข้อมูลข่าวสารของทางราชการเกี่ยวกับสัญญา ข้อตกลง และเงื่อนไขผูกพันระหว่างรัฐบาลกับบริษัทแอสตร้าเซนเซก้า จำกัด และบริษัท สยามไบโอโซ เอนซ์ จํากัด เกี่ยวกับการจัดหา จัดซื้อ และดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิต 19 ถึงสถาบันวัคซีนแห่งชาติ หนังสือลงวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๔ มานั้น
สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ดำเนินการและจัดส่งเอกสารที่มี ตามที่ได้ดำเนินการจริง ซึ่งรวมถึงเอกสารสัญญาที่ได้รับอนุญาตจากคู่สัญญาในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแล้วตามร้องขอ และได้ชี้แจง ประเด็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดำเนินการที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติมีส่วนเกี่ยวข้อง ให้กับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร แล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สำหรับสัญญาข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนจากบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด ขอเรียนให้ทราบ ว่าสถาบันวัคซีนแห่งชาติไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการและไม่ใช่คู่สัญญา จึงไม่มีสัญญาดังกล่าว
นอกจากนี้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติไม่ได้เป็นคู่สัญญาในการจัดทำข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนจากบริษัท ไฟเบอร์ (ประเทศไทยจำกัด จึงไม่มีสัญญาตามอ้างถึงดังกล่าวด้วยเช่นกัน จึงเรียนมาเพื่อทราบ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม ได้มีคอมเม้นต์วิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้ ด้วยว่า จริง ๆ ตามมารยาท ส.ส. วิโรจน์ ควรออกมาขอโทษสถาบันวัคซีนด้วยนะครับ ใช้หน้าที่ตรวจสอบเค้าก็พอเข้าใจ แต่ตำหนิเค้าเรื่องไม่ส่งสัญญา ทั้ง ๆ ที่เอกสารไปค้างอยู่ในพรรคก้าวไกลของตนเองตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. เดือนกว่า ๆ แล้วนะ ทำไมไม่มีใครรู้
จริงๆ ควรจะตรวจสอบประสิทธิภาพการทำหน้าที่ในพรรคตัวเองก่อนนะครับ ผมซึ่งจ่ายภาษีบริจาคให้พรรคการเมือง กับเป็นเงินเดือนให้ สส. อย่างพวกคุณ ผมก็มีสิทธิตำหนิการทำงานฝ่ายค้านที่บกพร่อง ๆ แบบนี้นะ