สามกีบนิ้วกุด?? “ซีพีออลล์” ประกาศเอาผิด คนเลียนแบบเครื่องหมายการค้า-บิดเบือนข้อมูล เกลียดชังเสื่อมค่าแบรนด์ 7-Eleven

2586

สามกีบนิ้วกุด?? “ซีพีออลล์” ประกาศเอาผิด คนเลียนแบบเครื่องหมายการค้า-บิดเบือนข้อมูล เกลียดชังเสื่อมค่าแบรนด์ 7-Eleven

จากกรณีที่วันนี้ (7 กรกฎาคม 2564) เฟซบุ๊ก “CPALL” ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น โพสต์ข้อความแถลงการณ์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เรื่อง “การดำเนินการทางกฎหมายกรณีการนำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริง ข้อความหมิ่นประมาทบริษัท ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อออนไลน์” ลงวันที่ 6 ก.ค.

ระบุว่า ตามที่ปรากฏว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่งได้นำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริง ข้อความหมิ่นประมาท เกี่ยวกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ และยังปรากฏเพิ่มเติมว่ามีบุคคลบางกลุ่มได้ปลอม เลียนแบบ เผยแพร่ รวมถึงทำให้เสื่อมค่า (Dilution) ซึ่งชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า 7-Eleven เครื่องหมายบริการของบริษัท และบริษัทในกลุ่ม ซึ่งการกระทำของบุคคลดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท และสร้างความสับสนและเข้าใจผิดต่อบริษัทเป็นอย่างมาก

บริษัทในฐานะองค์กรเอกชน และบริษัทมหาชน ได้ประกอบธุรกิจโดยสุจริต และยึดหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน สังคม และชุมชน รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อย เป็นสำคัญ บริษัทยินดีเป็นอย่างยิ่งและพร้อมรับการติชมในการดำเนินงานของบริษัทในทางสุจริตและอยู่บนพื้นฐานของความจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่บุคคลทั่วไปมีสิทธิในการกระทำได้

อย่างไรก็ตาม หากการติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์การประกอบธุรกิจของบริษัทอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นเท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง หรือข้อความหมิ่นประมาท ประกอบกับการปลอม เลียนแบบ เผยแพร่ รวมถึงทำให้เสื่อมค่า (Dilution) ซึ่งชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการของบริษัท อันส่งผลทำให้บริษัทได้รับความเสียหายทางชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง และถูกทำให้เสื่อมเสียซึ่งความไว้วางใจต่อสาธารณะ บริษัทก็มีความจำเป็นในการดำเนินการทางกฎหมายต่อบุคคลที่นำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริง ข้อความหมิ่นประมาท และใช้ชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการของบริษัท โดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการทางกฎหมายของบริษัทเป็นไปเพื่อปกป้องสิทธิและประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ทางฝ่ายของสามกีบได้มีการรณรงค์ให้แบนเซเว่น โดยแนวร่วมสามกีบ ทำแคมเปญ นัดไม่เข้าเซเว่นกันนะ  เป็นแค่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ทางทวิตเตอร์ของกลุ่มดาวดิน สามัญชน ก็มีการช่วยกระจายข่าวด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ทางเพจแนวร่วม ก็มีการโพสต์ข้อความว่า รณรงค์​คนไทยงดเข้า 7 กันทั่วประเทศ​ เสียงเล็กๆของประชาชน รวมกันคือพลังที่ยิ่งใหญ่ 3 ทุ่มร้านปิดไม่ให้นั่งกินในร้านSMEตายเรียบ เหลือ 7 เปิด 24 ชม.นะจ๊ะ เรามา #อารยะขัดขืน อย่างเป็นระบบ #ไม่เข้าเซเว่น #กูจะเปิดมึงจะทําไม #นะจ๊ะพ่อxมึxสิ #วัคซีนโควิด #ข่าวใส่ไข่ #รัฐบาลส้นตีน