ปธน.ทรัมป์ยืนยัน ขอศาลสูงคว่ำ “โอบามาแคร์” อ้างใช้งบฯสูง และยกเลิกบางส่วนไปแล้ว แคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก ทำแผนประกันสุขภาพเอง

2720

รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยื่นเรื่องขอให้ศาลฎีกาสหรัฐฯ สั่งยกเลิก ‘โอบามาแคร์(‘the Affordable Care Act ) กฎหมายที่ให้การคุ้มครองด้านสุขภาพชาวอเมริกันหลายล้านชีวิต ทนายฝ่ายรัฐบาลอ้างว่า กฎหมายนี้ถือว่าเป็นโมฆะไปแล้วหลังจากสภาคองเกรส ซึ่งมีสมาชิกส่วนใหญ่จากพรรครีพับลิกัน ได้ลงมติยกเลิกบางส่วนของกฎหมายไปก่อนหน้านี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐนิวยอร์ก จัดทำแผนประกันสุขภาพของตนเองโดยไม่ใช้ของรัฐบาลกลาง

นายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปธน.ทรัมป์ทำให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนต้องตกอยู่ในความเสี่ยงระหว่างวิกฤตไวรัสโควิด-19

ทรัมป์กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ใช้เงินมากเกินไปและบังคับคนให้แบกภาระเกินไป และสัญญาว่าจะคิดโครงการใหม่ขึ้นมาแทน โดยจะคงองค์ประกอบที่ได้รับความนิยมไว้ แต่จะครอบคลุมคนน้อยลง แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนออกมา
หากศาลฎีกาสหรัฐฯ สั่งยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพ ชาวอเมริกันราว 20 ล้านรายต้องสูญเสียการคุ้มครองด้านสุขภาพ ที่เรียกว่า ‘โอบามาแคร์’ เพราะริเริ่มโดยรัฐบาลนายบารัค โอบามา

โจว ไบเดน ซึ่งพยายามเรียกร้องให้ประชาชนสนับสนุนให้ขยายการครอบคลุมของกฎหมายประกันสุขภาพฉบับนี้ให้กว้างขึ้น บอกว่า ผู้ที่รักษาหายจากโควิด-19 อาจเสียสิทธิที่จะได้รับการรักษาอย่างครอบคลุมหากศาลฎีกาสั่งยกเลิกกฎหมาย
“พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตติดอยู่ในความเลวร้ายที่เป็นผลมาจากมรดกตกทอดจากทรัมป์สองประการคือ ความล้มเหลวในการปกป้องคนจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และการรณรงค์อย่างไร้หัวจิตหัวใจที่จะเอาระบบปกป้องทางสาธารณสุขไปจากครอบครัวชาวอเมริกัน” ส่วนแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ สังกัดพรรคเดโมแครตทวิตว่า “เป็นความอำมหิตอย่างไม่คาดคิดมาก่อน”

พรรครีพับลิกันมองว่ากฎหมายฉบับนี้ ทำให้เกิดข้อบังคับและค่าใช้จ่ายสำหรับบริษัทต่าง ๆ มากเกินไป เป็นภาระของผู้ซื้อประกันมากไป เพราะทุกคนจะถูกบังคับซื้อ และจะส่งผลทำให้คนตกงานเพิ่มขึ้น เพราะบริษัทเอกชนฯไม่ต้องการแบกภาระ ความจริงอีกด้านคือ กฎหมายโอบามาแคร์ ทำให้มีการจ้างงานในภาคสาธารณสุขสูงขึ้น 9% และงานวิจัยในปี 2017 ระบุว่า หากยกเลิกกฎหมายนี้ จะทำให้ผู้ที่ทำอยู่จำนวน 2.6 ล้านคนต้องตกงาน

ล่าสุด (28 มิ.ย.2563) สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2,596,537 ราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 128,152 ราย มากเป็นอันดับหนึ่งในโลก
………………………………………….
Cr: CBSnews