ปธน.คนใหม่อิหร่านลั่นไม่สนพบไบเดน?!?จี้หยุดคว่ำบาตรจึงคุยเลิกนิวเคลียร์ ฟื้นสัมพันธ์ซาอุฯเผชิญตะวันตกคุกคาม

1608

นายอิบราฮิม ไรซี ผู้นำใหม่แห่งอิหร่าน ประกาศสนับสนุนการเจรจากับ 6 ชาติมหาอำนาจเพื่อฟื้นฟูข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ปี 2015 แต่ยืนกรานไม่มีวันพบ ‘โจ ไบเดน’ ต่อให้สหรัฐฯ ยอมยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดก็ตาม ขณะที่แย้มว่ากำลังคุยกับผู้นำซาอุดีอาระเบีย ฟื้นความสัมพันธ์หลังจากห่างเหินกันมาถึง 5 ปี

ในวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย.2564 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานการแถลงข่าวของนายอิบราฮิม ไรซี(Ebrahim Raisi) ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่แห่งอิหร่าน  ถือเป็นการเปิดตัวกับสาธารณชนครั้งแรกในฐานะผู้นำใหม่นับตั้งแต่คว้าชัยการเลือกตั้งของประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มิ.ย.2564  ไรซีให้ลำดับความสำคัญ ภารกิจอันดับแรกคือ การปรับปรุงความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านในภูมิภาค และรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ขณะเดียวกันก็ตัดการพบปะและประชุมโดยสิ้นเชิง กับประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน 

ไรซีเป็นนักบวชสายอนุรักษ์นิยมขวาจัดที่เป็นผู้นำฝ่ายตุลาการของอิหร่าน จะเข้ามาแทนที่ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี (Hassan Rouhani) ซึ่งเป็นผู้นำสายกลาง และประสบความสำเร็จครั้งสำคัญ คือสามารถทำข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ระหว่างอิหร่านและมหาอำนาจโลกได้ในเดือนสิงหาคม 2015/2558

ข้อตกลงปี 2558 เห็นว่าอิหร่านยอมรับการควบคุมความสามารถด้านนิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร แต่อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถอนตัวเพียงฝ่ายเดียวในอีก 3 ปีต่อมาและเพิ่มมาตรการคว่ำบาตร กระตุ้นให้อิหร่านถอนตัวจากพันธะสัญญาด้านนิวเคลียร์ เพราะเห็นว่าฝ่ายสหรัฐฯละเมิดสัญญา ปฏิบัติการคว่ำบาตรอิหร่านฝ่ายเดียวแม้ ประเทศคู่สัญญาอื่นคัดค้านก็ไม่ทมีผลอะไร อิหร่านจึงไม่เห็นประโยชน์ว่าทำไมต้องเป็นฝ่ายยอมฝ่ายเดียว ทั้งที่ปฏิบัติตามข้อตกลงทุกอย่างมานับ 10 ปีก็ไม่ช่วยอะไร

ในเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ฉบับปี 2558 ไรซียืนยันว่า อิหร่านสนับสนุนการเจรจาตามหลักการกับคู่กรณีทุกภาคส่วน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ด้วยเหตุนี้ สหรัฐซึ่งถอนตัวออกไป ต้องกลับมาร่วมข้อตกลงโดยเร็วที่สุด และปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ รัฐบาลวอชิงตันลาออกจากการเป็นภาคีร่วมข้อกตลงดังกล่าว เมื่อเดือน พ.ค. 2561 ในยุคของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ แล้วหวนกลับมาบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อรัฐบาลเตหะราน

ไรซี กล่าวว่า“สิ่งที่ฉันพูดกับสหรัฐฯ คือ ตามข้อตกลงนิวเคลียร์ คุณต้องยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมด แต่คุณไม่ได้ทำ”

ขณะที่ปธน.ไบเดน ส่งสัญญาณถึงความพร้อมของเขาที่จะกลับไปสู่ข้อตกลง และพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งรวมถึงอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี และรัสเซีย กำลังเจรจาฟื้นฟูข้อตกลงในกรุงเวียนนาเมื่อเร็วๆ นี้

ปธน.ไรซี แห่งอิหร่าน ปฏิเสธการพบปะกับปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ แม้ว่าสหรัฐฯจะยกเลิกคว่ำบาตรก็ตาม แต่กล่าวว่า ไม่มีอุปสรรคในการฟื้นความสัมพันธ์ทางการฑูตกับซาอุดีอาระเบีย ที่เคยเป็นคู่ปรับในฐานะผู้นำของนิกายซุนนี ต่างจากอิหร่านในฐานะผู้นำนิกายชีอะ  หลังจากความสัมพันธ์ถูกตัดขาดมาถึง 5 ปี 

ไรซีย้ำว่า “ไม่มีอุปสรรคจากฝ่ายอิหร่านในการเปิดสถานทูตอีกครั้ง… ไม่มีอุปสรรคในการติดต่อกับซาอุดีอาระเบียเช่นกัน”

ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและซาอุดีอาระเบียถูกตัดขาดในปี 2559 หลังจากที่ผู้ประท้วงชาวอิหร่านโจมตีคณะทูตของซาอุดิอาระเบียภายหลังการประหารชีวิตนักบวชชีอะที่เคารพนับถือของราชอาณาจักร มีรายงานว่าทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมในการเจรจาที่จัดโดยแบกแดด ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์

อย่างไรก็ตาม นายไรซีจะเป็นประธานาธิบดีอิหร่านคนแรกที่ถูกคว่ำบาตรโดยรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากเขามีบทบาทในการกวาดล้างผู้ประท้วงเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

ด้าน ปูติน ผู้นำรัสเซีย แสดงความยินดีกับนายไรซี ประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน และแสดงความหวังว่าจะเพิ่มความร่วมมือด้านการพัฒนาที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองฝ่ายต่อในในอนาคต