หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า อาจจะมีการเกิดบิ๊กดีลใหญ่ ระหว่างกลุ่มของประชาธิปปัตย์ กลุ่มดาวฤกษ์ หรือไม่นั้น เพราะทางด้านนายสำราญ ตลับเพ็ชร์ หัวหน้าสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขตหนองจอก ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และหัวหน้าสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ลำดับที่ 16 กทม. ต่อนายทะเบียนสมาชิกพรรค และสำนักงานกกต. โดยให้มีผลในวันเดียวกัน ก็คือ 17 มิ.ย 64 นี้
โดยนายสำราญ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า ตนได้ยื่นใบลาออกช่วงเที่ยงวันนี้ เนื่องจากรู้สึกอึดอัดในการทำงาน เพราะพรรคตอบรับนายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม. เขตหนองจอก พรรคพลังประชารัฐ ที่จะย้ายมาลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ก่อนที่พรรคจะตอบรับนายศิริพงษ์ ได้มาสอบถามความคิดเห็นจากตนก็ได้บอกไปว่าถ้าจะรับคนนี้เข้ามาตนก็ทำงานด้วยยาก เพราะนายศิริพงษ์มีปัญหาหลายอย่างในพื้นที่ นอกจากนี้ ตนแสดงความประสงค์ลงสมัคร ส.ส.เขตหนองจอก ซึ่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้ให้สัญญาว่าจะให้ตนลงสมัครตามที่ร้องขอ แต่ต่อมาเปลี่ยนไปให้นายศิริพงษ์
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคแล้วหรือไม่ก่อนยื่นใบลาออก นายสำราญ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดคุยกับนายจุรินทร์ มีเพียงพูดคุยกับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ที่ดูแลพื้นที่กทม. ก็บอกตนว่านายเฉลิมชัยวางตัวนายศิริพงษ์ เป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตนี้เรียบร้อยแล้ว คงทำอะไรไม่ได้ ตนจึงยินดีเปิดทางให้ แต่เมื่อตนจะพาคนของตนไปเสนอตัวเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก.เขตหนองจอก ก็ติดบารมีพี่ชายนายศิริพงษ์ที่จะลงสมัคร ส.ก.ในนามอิสระ จึงเกิดปัญหาการทำงานในพื้นที่ ทำให้ตนเห็นว่าทำงานลำบาก จึงตัดสินใจยื่นใบลาออกจากพรรคดีกว่า
ขณะที่ทางด้าน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หรือมาดามเดียร์ แกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ เกี่ยวกับกระแสข่าวย้ายพรรคของนายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.เขตหนองจอก พรรคพลังประชารัฐ ว่า เรื่องดังกล่าวนายศิริพงษ์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปแล้วว่าไม่เป็นความจริง เป็นปัญหาภายในของทางนายสำราญ ตลับเพ็ชร์ หัวหน้าสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขตหนองจอก กับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเขาจะออกไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่น แต่สาเหตุที่นายศิริพงษ์ ถูกนำเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น นายศิริพงษ์ ได้โทรไปถามนายสำราญ ก็ยังได้คำตอบที่ไม่ชัดเจน ทราบเพียงว่ามีปัญหาภายใน และเรื่องอนาคตทางการเมืองที่นายสำราญจะหันไปเล่นการเมืองท้องถิ่น จึงไม่ทราบจริงๆ ว่าสาเหตุมาจากอะไร
“ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ทุกคน วันนี้ยังเป็น ส.ส.ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ไม่ทราบจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงมีเหตุการณ์ในลักษณะที่นายสำราญออกมาให้สัมภาษณ์ แต่ขอยืนยัน พวกเราไม่ได้คิดเรื่องย้ายพรรค เพราะเวลานี้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19 ทั้งเรื่องวัคซีนและช่วยชาวบ้าน”
เมื่อถูกถามว่า มีโอกาสที่กลุ่มดาวฤกษ์จะไม่อยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องย้ายหรือไม่ย้ายพรรค แต่ในทางการเมืองก็เป็นเรื่องปกติที่จะได้รับการทาบทามหรือชักชวน ซึ่งก็ไม่ใช่กลุ่มเราแค่กลุ่มเดียว แล้วถ้าฟังจากที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าจะอยู่จนครบเทอมนั้น แสดงว่าอนาคตยังอีกยาว จึงยังไม่ใช่เวลามานั่งคิดว่าจะย้ายพรรคหรือไม่ย้ายพรรค
เมื่อถูกถามว่า มีกระแสข่าวว่ากลุ่มดาวฤกษ์มีคนมาจีบเยอะข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร น.ส.วทันยา กล่าวว่า คงไม่ใช่ขนาดนั้น แต่เป็นเรื่องปกติที่ในสภาเราก็จะมีการคุยกันกับเพื่อน ส.ส.ในทุกพรรค การคุยกันในเชิงทาบทามก็อาจไปทำให้คนเข้าใจผิดได้ แต่ยืนยันเราไม่คิดเรื่องย้ายพรรคเลย ตอนนี้ขอทำงานก่อน เพราะถ้ายึดตาที่นนายกฯพูดจะอยู่ครบเทอม ก็เท่ากับเหลือเวลาอีก 2 ปีในการทำหน้าที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อถูกถามทิ้งท้ายอีกว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคใหม่อย่างพรรคของ 4 กุมารก็มาจีบ พรรคกล้าก็มาจีบ จะไม่ใจอ่อน ใช่หรือไม่ น.ส.วทันยา ระบุว่า จริง ๆ ไม่ใช่การมาจีบ แต่ไม่ว่าจะเป็นนายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิระวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน และนายกร ณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ทุกคนล้วนเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพและชื่นชมการทำงาน ถือเป็นคนที่รู้จักกันอยู่ก่อนแล้ว การถามไถ่สารทุกข์สุขดิบและถามไถ่เรื่องการทำงานก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการคุยกันเรื่องการย้ายพรรค
