จากกรณีที่มีการแถลงข่าวศึก “ยูโร 2020” คืนความสุขให้คนไทยได้ดูศึกฟุตบอล “EURO 2020” อย่างจุใจผ่านช่อง NBT 2 HD
โดยทางด้านนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการแถลงร่วมกับ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์, นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ, นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด
โดยนายอนุชา นาคาศัย เปิดเผยเบื้องหลังการคว้าลิขสิทธิ์ที่ได้มีการเจรจาจนสามารถปิดดีลกันได้ภายในระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมง ซึ่งตนได้มอบหมายให้ลงมาประสานเพื่อนำการถ่ายทอดสดให้ประชาชนคนไทยได้ชม เรื่องนี้เราได้คุยกับภาครัฐและเอกชนมากมาย แต่ด้วยข้อจำกัดของระยะเวลา สุดท้ายการเซ็นสัญญาต้องขอบคุณนายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ , พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ต้องการให้ประชาชนได้ดูยูโร 2020 รวมทั้งทรูสปอร์ต คอร์ปอเรชั่น ที่ติดต่อเรื่องลิขสิทธิ์ให้ ส่วนทางด้านนายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ เปิดเผยว่า การเจรจาเบื้องหลังนั้นเป็นไปอย่างฉุกละหุก ส่วนตัวตนสนับสนุนไปก่อน 10 ล้านบาท แต่พอการเจรจาเดินหน้าไปเรื่อย ๆ เห็นว่าปัญหาที่รัฐวิสาหกิจหรือเอกชนติดปัญหา สุดท้ายจึงตัดสินใจสนับสนุนงบประมาณในเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ไปเลย ตนเชื่อว่าการได้ดูยูโร 2020 จะช่วยสร้างความสุขให้คนไทย และขอฝากถึงเรื่องการดูบอล ขอให้ดูเป็นความบันเทิง ปราศจากการพนัน
เมื่อเรื่องราวของเบื้องหลังการคว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลจบลง ทางสื่อชื่อดัง THE STANDARD ได้ทำกราฟฟิคแผนผังของตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ โดยใช้หัวข้อว่า “เลือดข้น คนการเมือง ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ”
พร้อมระบุข้อความบนทวิตเตอร์ว่า “ล่าสุดเมื่อวานนี้ ปรากฏข่าว โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ อาของธนาธรอีกคน ซึ่งสถานะหนึ่งคือบิดาของพงศ์กวิน ร่วมโต๊ะแถลงข่าวกับภาครัฐ ในฐานะเอกชน ผู้เจรจาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020 ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ความชัดเจนของคนตระกูล ‘จึง’ ขยับเข้ามามีบทบาทในสนาม” แต่ปรากฎว่าข้อความบนผังนั้น ได้มีการทำกรอบสีเขียว และเขียนชัดเจนในชื่อของนายสุริยะ และนายพงศ์กวิน ว่าหนุนเผด็จการ และมีของนายธนาธร ที่เขียนว่า ไม่เอาเผด็จการ
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้มีคอมเม้นต์เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ ว่า THE STANDARD ไม่น่ารอดโดนฟ้อง ทำกราฟฟิคนี้ได้ทุเรศมาก ทำไมต้องไปใส่อะไรในภาพแบบนั้น ไปว่าเขาแบบนี้เลยก็ได้หรอ บางคนก็บอกด้วยว่า แคปไว้แล้วนะ ถ้าจะลบก็ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเคลื่อนไหวของ THE STANDARD ต่อเรื่องนี้