วรวรรณ ลั่นตระกูลซื่อสัตย์จงรักภักดี ไม่มีเรื่องให้ละอายแก่ใจ ให้อัปยศ

10114

จากที่มีการชุมนุม 19 กันยา ที่บริเวณสนามหลวง มีการปราศรัยจาบจ้วงบนเวทีอย่างรุนแรงของแกนนำ ส่งผลให้หลายๆคนที่เชียร์ม็อบได้ออกมาเคลื่อนไหวรับไม่ได้ รวมทั้ง วรวรรณ ธาราภูมิ อดีตประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.)

ทั้งนี้โดย วรวรรณ  ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก แสดงความผิดหวัง กับม็อบ 19 ก.ย. ที่ตนเองคาดหวังถึงความเปลี่ยนแปลง ดังต่อไปนี้…ความคาดหวังกับความจริงเรื่องม็อบ 19 ก.ย. 63

ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะได้รับฟังแนวคิดที่มีประโยชน์และอาจจะแตกต่าง จากคนรุ่นหลาน อยากรู้จริงๆ ว่าเขาต้องการอะไรถึงได้ก่อม็อบ และคาดหวังว่าแนวคิดเหล่านั้นจะนำพาไปสู่การปรับปรุงแนวปฏิบัติของชนชั้นปกครองได้

ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะได้เห็นนักศึกษาขึ้นเวที แสดงวิสัยทัศน์ของตนต่ออนาคตของประเทศซึ่งต่อไปก็จะอยู่ในมือของพวกเขา เพื่อให้คนรุ่นเราไม่ว่ารัฐบาล / สส ทุกพรรค / สว / นักธุรกิจทั้งหลาย / รวมไปถึงพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ จะได้รับรู้ว่าลูกหลานกำลังมีปัญหาที่ตรงไหน และเขามองพวกเราอย่างไร

ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะมีหลานๆ สักคนขึ้นเวทีแล้วถามถึงแนวทางของรัฐในการรับมือกับอนาคตที่ตนเองจะไม่มีงานทำเพราะเทคโนโลยีที่มาทดแทนได้ … เพื่อให้รัฐบาลนำไปเป็นโจทย์ที่ต้องแก้ไข ป้องกันล่วงหน้า อย่างจริงจัง

ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะมีใครที่ตอกย้ำถึงความไม่เสมอภาคในกระบวนการยุติธรรม และความอ่อนแอขององค์กรอิสระที่น่าจะทำตัวไม่อิสระแล้วในหลายๆ กรณี

ข้าพเจ้าคาดหวังว่าหลานๆ จะเสนอแนวคิดในการเดินหน้าอนาคตไทยอย่างสร้างสรรค์ ในมุมมองของเขา

ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะมีคนพูดเรื่องข้อดีข้อเสียของการมี สว แบบปัจจุบัน รวมไปถึงการนับคะแนนเลือกตั้งที่เอามาหารด้วยสูตรประหลาดที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ

ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะมีนักศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์สักคน ที่สามารถชี้แนวทางใหม่ที่ปฏิบัติได้จริงในเรื่องทุนนิยม การผูกขาด และความเหลื่อมล้ำ

ข้าพเจ้าคิดเรื่อยเปื่อยไปจนถึงว่าจะมีนักเรียน นักศึกษา สักคน มาพูดถึงภัยอันตรายที่วัยรุ่นต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคุกคามทางเพศ เวปการพนัน และยาเสพติด

แล้วข้าพเจ้าก็พบว่าความจริงที่ได้จากม็อบ ว่ามันคือความตั้งใจในการโจมตี บั่นทอนคุณค่าของพระมหากษัตริย์

มีเท่านี้จริงๆ

มีแม้กระทั่งจะให้แก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ในหลวงไปขึ้นศาลเมื่อมีการฟ้องร้อง ฯลฯ รวมไปถึงกระทบกระทั่งทางอ้อมต่อพ่อหลวง ร.9 กรณีสวรรคตของ ร.8 ฯลฯ

แล้วก็จบด้วยคำขู่ตามภาพแรกที่เป็นตอนท้ายคำปราศรัยของคุณทนาย อานนท์

ถ้านี่คือเป้าหมายของม็อบ ข้าพเจ้าก็ไม่หวังอะไรจากลูกหลานที่ชูสามนิ้วอีกแล้ว เนื่องข้าพเจ้าไม่เห็นคุณค่าของการจัดม็อบตามที่คาดหวังเลย รวมถึงไม่เห็นประโยชน์ของการจะสนับสนุน เพราะการปักหมุดคณะราษฎร์ การย่ำยีสถาบันสูงสุดในแบบที่ทำ มันมิได้ทำให้คนกินดีอยู่ดี มิได้ลดความเหลื่อมล้ำ มิได้ทำให้เกิดความสามัคคีในคนไทยด้วยกันเลยสักนิด

แถมยังไปช่วยผลักดันคนที่กำลังหงุดหงิดกับรัฐบาล ทำให้เขาจำต้องเลือกข้างนายกฯ อีกครั้ง เพราะทนรับฟังพวกท่านก้าวร้าวต่อสถาบันสูงสุดไม่ไหว

ก็แปลกใจที่คนรุ่นใหม่ยังฝังใจกับพิธีกรรม ถึงขั้นตอกหมุดคณะราษฎร์อีกครั้ง … ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะทำอะไรไร้สาระแบบนี้

สรุปคือผิดหวังมาก ใครจะโกรธเกลียดที่ข้าพเจ้าคิดเห็นอย่างนี้ก็ตามใจท่าน แต่ก่อนคิด ก่อนออกความเห็น ข้าพเจ้าได้รับฟัง ได้ศึกษาข้อมูลจริงด้วยตนเอง แล้วคิดอย่างไร ก็แสดงออกมาตรงๆ ตามนี้

ข้าพเจ้าก็คงต้องแสวงหาแนวทาง แนวร่วม ที่คิดแบบเดียวกัน เพื่อทำให้เราพ้นจากวังวนอุบาทว์ทั้งหลาย ต่อไป เพราะไม่สามารถฝากอนาคตประเทศไว้กับพวกท่านได้ตามที่เคยคิดหวัง

ล่าสุดวันนี้(23ก.ย.63) วรวรรณ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กอีกครั้งว่า

ทรัพย์สินของตระกูลคือความหยิ่งในศักดิ์ศรีและจิตใจที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี

บุตรีตระกูลเราไม่มีเรื่องให้ละอายแก่ใจ เปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องฝืนกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมและความอัปยศอดสูใดใดทั้งสิ้น

ที่มา : เฟซบุ๊ก วรวรรณ ธาราภูมิ