จากที่วันนี้ 29 พฤษภาคม 2564 หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีวัคซีนราชวิทยาลัย ซึ่งถูกคนบางกลุ่มตั้งแง่ พยายามโจมตีเชื่อมโยงต่างๆ โดยท่านใหม่ ได้ระบุไว้ท้ายข้อความใส่เครดิต Paisal Puechmongkol มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
“ความเข้าใจเรื่องวัคซีนซิโนฟาร์ม 1. วัคซีนซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนของรัฐบาลจีน ไม่ใช่วัคซีนเพื่อการพาณิชย์เหมือนยี่ห้ออื่น แต่เป็นวัคซีนเพื่อความมั่นคง ใช้ในหน่วยงานความมั่นคงระดับสูงของจีนและสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ เพื่อเป็นกลไกหนึ่งในการทำสงครามชีวภาพกับต่างชาติ จึงไม่ใช่วัคซีนที่จำหน่ายโดยทั่วไป
- จีนจะมอบซิโนฟาร์มหรือขายให้แก่มิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งเท่านั้น ไม่เคยตั้งตัวแทนนายหน้าออกไปขายยานี้เลย เพราะไม่มีความจำเป็น มีผู้ประกอบการไทยหลายรายเคยขอเป็นเอเย่นต์ในเรื่องนี้ เขาก็ไม่เล่นด้วย และวัคซีนซิโนฟาร์มนั้นไม่ใช่หน่วยงานไหนจะติดต่อขอจากรัฐบาลจีนได้โดยตรง
- ราชวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์เป็นเป็นหน่วยงานที่ได้รับการนับถือจากรัฐบาลจีนมาก สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอฯก็ทรงเป็นที่รักและที่นับถือของรัฐบาลจีน ดังนั้นจึงอยู่ในฐานะที่จะได้รับการสนับสนุนวัคซีนซิโนฟาร์ม ซึ่งย่อมหมายความถึงอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์จำนวนมากรวมทั้งเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งกำลังไม่พอใช้ในประเทศไทย
- การที่ราชวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์เอื้อมมือเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชนนั้นก็ด้วยพระบารมีโดยแท้ มิฉะนั้นไม่มีทางที่จะได้วัคซีนหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ และเป็นเพราะน้ำพระทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาคุณต่อพสกนิกร
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันสนับสนุนช่วยเหลือราชวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ให้สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเรื่องวัคซีนซิโนฟาร์มและอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว ใครก็ตามที่เตะถ่วงหรือทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองในครั้งนี้ พวกนี้เป็นอันตรายยิ่งกว่าพวกล้มเจ้า!!! และกำลังสร้างความสับสนและเข้าใจผิดให้เกิดขึ้น จึงบอกกล่าวมาให้รู้โดยทั่วกัน”
ทั้งนี้สำหรับชื่อเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol เป็นของนายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ที่ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย เช่น
“ด่วนมาก ขณะนี้องค์กรเอกชนและองค์กรปกครองท้องถิ่นได้จองซื้อวัคซีนสิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อย่างล้นหลาม ซึ่งคาดว่า จำนวน 1 ล้านโดสแรก น่าจะไม่พอแล้ว พรรคพวกผมไปลงทะเบียนจะฉีดวัคซีนที่ สถาบันจุฬาภรณ์ ก็ไม่ทัน เพราะทราบว่าปิดลงทะเบียนแล้ว!!!
จึงสมควรที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะได้รีบติดต่อสั่งซื้อล็อตที่ 2 ซึ่งไม่ควรน้อยกว่า 5 ล้านโดส เพื่อสำรองและทดแทน ถ้าหากวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาส่งไม่ทัน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ทันท่วงที ผมทราบว่าทางจีนจัดเตรียมไว้ให้ทางฝ่ายไทยถึง 20 ล้านโดส!!! ถ้าหากจองซื้อช้าก็อาจจะถูกประเทศอื่น แย่งซื้อไปก่อน ก็จะได้รับผลกระทบอีก!!!
ทางจีนเขาซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงมาก*** เมื่อครั้งที่เกิดการแพร่ระบาดที่หวู่ฮั่น และถูกประเทศตะวันตกตั้งข้อชิงชังรังเกียจเหยียดหยามนั้น พระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานความช่วยเหลือจำนวนมาก ไปให้แก่ประเทศจีนเป็นประเทศแรกๆสุด*** และชาวไทยทั้งประเทศก็ช่วยกันให้ความช่วยเหลือตลอดจนให้กำลังใจ เป็นความซาบซึ้งใจในยามเขาลำบาก
ดังนั้นแม้จะมีปัญหาทางการเมืองที่นักการเมืองบิดเบี้ยว เขาประการใด แต่ด้วยพระบารมี เชื่อว่าจีนยังคงช่วยเหลือประเทศไทยอย่างเต็มที่ ตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ต้องการ
ก็อยากจะบอกให้ทราบว่า สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอฯนั้นทรงเป็นที่รักที่นับถือของผู้นำจีนและชาวจีนทั่วประเทศ เพราะทรงปฏิบัติงานในทางการแพทย์ร่วมกับทางจีนมาช้านานแล้ว
ครูบาอาจารย์ของพระองค์ท่านที่สอนกู่เจิ้งก็ดี สอนวิชาการต่างๆก็ดี ล้วนเป็นคนสำคัญและใกล้ชิดกับผู้นำจีนที่เขาคัดสรรมาถวายงานโดยเฉพาะ ก็สนับสนุนพระองค์ท่านอย่างเต็มที่
พระบารมีของพระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ ยังคงเป็นที่พึ่งที่ชาวไทยถือเป็นสรณะได้อย่างแน่วแน่มั่นคง ขอทรงพระเจริญพระพุทธเจ้าข้า”