การถล่มฉนวนกาซาของอิสราเอลและการโจมตีด้วยจรวดของกลุ่มฮามาสในเมืองของอิสราเอลหยุดลงหลังจากถล่มกัน 11 วัน ภายใต้ข้อตกลงที่เป็นสื่อกลางของอียิปต์ซึ่งกำลังเจรจากับทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับวิธีการรักษาเสถียรภาพ ไม่ทันข้ามวันระเบิดควัน แก็สน้ำตาและการปะทะที่มัสยิดอัล-อักซอยังปะทุไม่จาง ขณะที่UNSC ยังเถียงกันน้ำลายท่วมและทุกฝ่ายลืมการเร่งช่วยเหลือทางมนุษยธรรมที่ยังไปไม่ถึงผู้สูญเสียโดยเฉพาะ ชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตกว่า 200 บาดเจ็บนับหลายพันคน
ความรุนแรงในฉนวนกาซา ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการที่ตำรวจอิสราเอลบุกเข้าไปในมัสยิดอัล-อักซอของเยรูซาเล็มตะวันออกและปะทะกับชาวปาเลสไตน์ในช่วงเดือนรอมอฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม หลายพันคนมารวมตัวกันที่นั่นเพื่อละหมาดวันศุกร์ โดยหลายคนยังคงแสดงท่าทีสนับสนุนฉนวนกาซา และการโจมตีด้วยขีปนาวุธทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มขึ้น
แม้จะมีประกาศหยุดยิงอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ทันข้ามวัน ที่มัสยิดอัล-อักซอปะทะกันอีก ตำรวจอิสราเอลได้ยิงระเบิดแก๊สน้ำตาใส่ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งขว้างก้อนหินและระเบิดน้ำมันใส่เจ้าหน้าที่ พยานของรอยเตอร์กล่าวและแพทย์ของปาเลสไตน์กล่าวว่ามีชาวปาเลสไตน์ราว 20 คนได้รับบาดเจ็บ
การเผชิญหน้าจบลงภายในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยตำรวจอิสราเอลถอยกลับไปประจำการที่ประตูของอาคาร
ด้านฉนวนกาซามีศพอีก 5 ศพถูกดึงออกมาจากซากปรักหักพังในเขตพื้นที่ชาวปาเลสไตน์ที่มีประชากรหนาแน่นทำให้มีผู้เสียชีวิต 243 คนรวมถึงเด็ก 66 คนและบาดเจ็บมากกว่า 1,900 คน ทหารอิสราเอลกล่าวว่าทหารคนหนึ่งถูกสังหารเช่นเดียวกับพลเรือน 12 คน; หลายร้อยคนได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บหลังจากการกู้จรวดที่สร้างความตื่นตระหนก
ชาวปาเลสไตน์ที่รวมตัวกันด้วยความหวาดกลัวต่อขีปนาวุธของอิสราเอลหลั่งไหลเข้ามาที่ถนนในฉนวนกาซาสวมกอดกันเพื่อเฉลิมฉลองหน้าอาคารที่ถูกทิ้งระเบิด ลำโพงของมัสยิดประกาศว่า”คือชัยชนะของการต่อต้าน” รถยนต์ขับไปรอบ ๆ ธงชาติปาเลสไตน์และบีบแตร โดยไม่รู้เลยว่า ที่มัสยิดอัล-อักซอยังมีปะทะ
ในการนับถอยหลังสู่การหยุดยิงเวลา 02.00 น. (2300 GMT วันพฤหัสบดี) การระดมยิงจรวดของชาวปาเลสไตน์ยังคงดำเนินต่อไปและอิสราเอลได้ทำการโจมตีทางอากาศอย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนการหยุดยิง
อียิปต์กล่าวว่าจะส่งคณะผู้แทนสองคนไปตรวจสอบการสู้รบขณะที่ฝ่ายที่ทำสงครามกล่าวว่าพวกเขาพร้อมที่จะตอบโต้การละเมิดใด ๆ
พลเรือนทั้งสองฝ่ายที่อยู่แนวหน้าของเหตุการณ์ต่างไม่เชื่อว่ามีการหยุดยิงจริง “ฉันไม่ตกลงที่จะพักรบ การพักรบคืออะไรหมายความว่าอย่างไร” นางซามิรา อับดัลลาฮ์ แนสเซียร์ (Samira Abdallah Naseer) แม่ของเด็ก 11 คนนั่งอยู่ใกล้ซากอาคารใกล้เบี๊ยดฮานาวน์ (Beit Hanoun) ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เธอกล่าวว่า“เรากลับไปบ้านไม่พบที่จะนั่งไม่มีน้ำไฟฟ้าไม่มีที่นอนไม่มีอะไรเลย”
ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเมืองท่าแอชดอด (Ashdod) ของอิสราเอลทางตอนเหนือของฉนวนกาซา แอน คิริ (Dan Kiri) นักศึกษาวัย 25 ปีกล่าวว่าอิสราเอลควรตั้งเป้าโจมตีกลุ่มฮามาสต่อไปจนกว่าจะล่มสลายทั้งหมด เขากล่าวกับสื่อว่า “การที่เรานั่งอยู่ที่นี่ดื่มกาแฟอย่างสงบและกินครัวซองต์ของเรา มันเป็นเพียงเรื่องของเวลา รอดูจนกว่าจะมีการดำเนินการครั้งต่อไปในฉนวนกาซา”
นี่คือธาตุแท้ของรัฐบาลอิสราเอลและชาวอิสราเอลจำนวนไม่น้อย ที่พึงพอใจกับการล้างเผ่าพันธุ์ประเทศที่ให้ที่พักพิงแก่บรรพบุรุษของตนในอดีต ที่อพยพมาอาศัยเมื่อมีภัยล้างเผ่าพันธุ์ที่ยุโรป วันนี้ตั้งหน้าตั้งตาล้างเผ่าพันธุ์เจ้าของบ้านอย่างหน้าตาเฉย
ส่วนทางด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) นายไฮโก มาอาส รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี กล่าววานนี้ แสดงความยินดีต่อการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มหัวรุนแรงในปาเลสไตน์ที่ควบคุมฉนวนกาซา หลังเกิดการปะทะนองเลือดกันนาน 11 วัน ส่วนฝรั่งเศสขอให้สหประชาชาติเร่งดำเนินความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในพื้นที่ของทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว
นายมาอาส รมว.ต่างประเทศเยอรมนี ทวิตข้อความหลังการเยือนอิสราเอลและเมืองรามัลเลาะห์ เพื่อการเจรจาสันติภาพว่า เป็นเรื่องดีที่มีการหยุดยิงในขณะนี้ และก็เป็นเวลาสมควรที่ต้องจัดการแก้ไขกับสาเหตุของความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และหาทางออกให้กับความขัดแย้งในตะวันออกกลางอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้แสดงความยินดีต่อการที่อิสราเอลและกลุ่มฮามาส ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัน เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 20 พ.ค.2564 ตามเวลาท้องถิ่น และนายไบเดนก็เชื่อว่า การหยุดยิงจะเป็นโอกาสอันแท้จริงสำหรับกระบวนการสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ยังได้ประกาศพร้อมช่วยซ่อมไอรอน โดมให้แก่อิสราเอล ที่เสียหายจากการระดมยิงจากกลุ่มฮามาสนับ 3,000 ลูก
