“ดีอีเอส” จับมือ สตช. ล่าตัว “สมศักดิ์ เจียม” ประสานฝรั่งเศสส่งผู้ร้ายข้ามแดน รับโทษม.112-พ.ร.บ.คอมพ์ ปล่อยข่าวลืออัปมงคล!
จากกรณีที่นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ถูกออกหมายจับตามความผิดมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส ได้โพสต์ข้อความโดยบอกว่า มีข่าวลือว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระประชวร และประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยเฟคนิวส์โจมตีสถาบัน โจมตีรัฐบาล การโพสต์หรือแชร์ข่าวปลอม ข้อมูลที่บิดเบือน สร้างความตื่นตระหนก ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน สังคมปั่นป่วน และบ้านเมืองเสียหายนั้นมีความผิดตามกฎหมาย
ล่าสุดทางด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่า ที่ผ่านมากระทรวงดิจิทัลฯได้ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดผู้ที่นำเสนอข่าวและข้อความที่มีลักษณะหมิ่นสถาบัน รวมถึงเฟคนิวส์หรือข่าวปลอมที่นำเสนอผ่านสื่อโซเชียลอย่างจริงจัง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เศรษฐกิจ และสุขภาพ โดยเฉพาะเฟคนิวส์ที่เกี่ยวกับโควิค-19 ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการขออำนาจศาลให้ออกคำสั่งไปยังแพลทฟอร์มของสื่อนั้นๆให้ปิดกั้นการนำเสนอข้อมูลโดยเร่งด่วน
สำหรับกรณีเฟคนิวส์เรื่องข่าวอัปมงคลที่เกี่ยวกับสถาบันซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่คนไทยเป็นอย่างมากนั้น ทางกระทรวงดิจิทัลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาล และแจ้งไปยังเจ้าของแพลทฟอร์มเฟสบุ๊คขอปิดกั้นข้อมูลของผู้โพสต์และปิดเฟสบุ๊คดังกล่าว อาทิ เพจของนายสมศักดิ์ เจียมธรสกุล , เพจของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ พร้อมทั้งดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวตามความผิดใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากสร้างความตื่นตระหนกและสร้างความเสียหายต่อบ้านเมือง เป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทรวงดิจิทัลฯจึงไม่อยากจะแถลงข่าวหรือพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนักเพราะเท่ากับเป็นการกระทำผิดซ้ำ หรือไปจุดประเด็นให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากยิ่งขึ้น
สำหรับการดำเนินคดีกับนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ซึ่งเป็นผู้ปล่อยข่าวอัปมงคลเกี่ยวกับสถาบันนั้น ทางกระทรวงดิจิทัลได้ประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ให้เร่งดำเนินการตามความผิดใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นอกจากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการในฐานความผิดตามมาตรา 112 ด้วย โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป รวมถึงประสานไปยังประเทศฝรั่งเศสเพื่อขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนด้วย
ส่วนการตรวจสอบข่าวปลอมเกี่ยวกับโควิดที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในขณะนี้นั้น ทางกระทรวงดิจิทัลฯได้ทำการตรวจสอบโดยใช้วิธีส่งข้อมูลไปสอบถามจากกระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้ช่วยตรวจสอบ ซึ่งในส่วนของประชาชนที่เสพข่าวก็ควรดูแหล่งที่มาของข้อมูลเป็นหลัก โดยเลือกข้อมูลที่มาจากหน่วยงานราชการและหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ มากกว่าจะฟังข้อมูลจากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น นักการเมือง ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือเพราะไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์