รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการฯ มธ. ชี้ชัด ม็อบชังชาติ หวังทำลายสถาบัน ลั่นไม่มีทางเป็นไปได้ คนไทยไม่มีทางยอม
จากกรณีที่มีการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และท้องสนามหลวง ทางด้านแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้ขึ้นปราศรัยบนเวที ถึงการปฏิรูปสถาบัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่จะทำลายสถาบันอย่างชัดเจน และนอกจากนี้ในวันที่ 20 กันยายน ก็ได้มีการฝังหมุดคณะคณะราษฎร หมุดที่ 2 บริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งในขณะนี้ทางกรมศิลปากรและกทม.ได้รื้อหมุดดังกล่าวออกแล้ว พร้อมกับดำเนินคดีกับแกนนำ ข้อหาบุกรุกและทำลายโบราณสถาน
ล่าสุดทางรศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีการชุมนุมในวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมาว่า
การชุมนุมวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเป็นไปตามที่แกนนำประกาศไว้ล่วงหน้าเพียงประการเดียว นั่นคือ จะพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์แบบ “เบิ้มๆ” ส่วนการคุยโวว่าวันที่ 20 กันยายนนี้ ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นจริงเลยแม้เพียงนิดเดียว
ที่กล่าวเข่นนี้เพราะการกระทำทุกอย่างของม็อบล้วนพุ่งเป้าไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ แบบตรงๆทั้งสิ้น
หากมีความจริงใจที่จะให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์คงอยู่อย่างสง่างาม อย่างที่ทั้งแกนนำ และนักการเมืองที่สนับสนุนแนวคิดนี้พยายามอธิบาย เหตุใดจึงยังคงจาบจ้วง เหยียดหยาม ย่ำยี สถาบันพระมหากษัตริย์กันอย่างสนุกปาก ทั้งยังสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่เป็นธรรมอีกด้วย
การปักหมุดคณะราษฎร บนพื้นที่ท้องสนามหลวงโดยใช้ข้อความแตกต่างจากหมุดอันจริง ก็เป็นการกระทำอย่างหนึ่งที่เป็นการย่ำยีสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากสนามหลวงเป็นโบราณสถาน
อย่าว่าแต่กระทำกับสถาบันพระมหากษัตริย์ หากใครมากระทำเช่นนี้กับพ่อแม่ของเรา เราจะรู้สึกอย่างไร เราจะทนได้หรือ
นี่หรือคือการปราศรัยแบบมีวุฒิภาวะ และมีอารยะ
หากต้องการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อความสง่างามของพระมหากษัตริย์จริง ต้องไม่ปราศรัยแบบนี้ ไม่กระทำย่ำยีเช่นนี้ แต่ควรต้องพูดกันเฉพาะในเนื้อหาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว บนหลักการที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
การทำเช่นนี้กลับทำให้ประชาชนเป็นจำนวนมากที่ติดตามข่าวและยังมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เกิดความไม่พอใจ อย่าว่าแต่องค์พระมหากษัตริย์เลย ใครมาทำเช่นนี้กับพ่อแม่ของเรา เราจะยอมได้หรือ
เมื่อเป็นเช่นนี้ การปฏิรูปสถาบันพระมหากษัริย์จึงยิ่งทำได้ยากยิ่งขึ้น กระทั่งเป็นไปไม่ได้
ไม่เข้าใจว่านักการเมืองใหญ่ๆที่มีความเห็นสนับสนุน แม้กระทั่งนักวิชาการบางคน มองข้ามเรื่องนี้ไปได้อย่างไร นักการเมืองบางคน ถึงกับประกาศชัยชนะให้กับการชุมนุมอย่างหน้าตาเฉย
อย่าว่าแต่เรื่องนี้เลย เรื่องการใช้กำลังตัดโซ่และพังประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นักการเมืองบางคนยังให้สัมภาษณ์สื่ออย่างหน้าตาเฉยว่า ไม่มีภาพของการตัดโซ่หรือพังประตูเข้าไปแต่อย่างใด แต่เป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยถอดล็อคให้เข้าไปเอง ทั้งที่มีทั้งภาพนิ่ง และคลิปที่ชัดแจ้งว่า มีคนใช้คีมยักษ์มากกว่า 1 คน ตัดโซ่และมีการพังประตูเข้าไป
พูดอย่างนี้ทำให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เสียหายนะครับ จะบอกให้
การชุมนุมวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเป็นไปตามที่แกนนำประกาศไว้ล่วงหน้าเพียงประการเดียว นั่นคือ…
Posted by Harirak Sutabutr on Monday, September 21, 2020